การทำงาน
บ่อยครั้งที่เราอาจจะรู้สึกว่าการงานทำให้เราเครียดและเบื่อหน่าย เราจะเข้าใกล้ความสุขได้ก็ต่อเมื่อถึงวันหยุดหรือได้ลาพักร้อน แต่แท้ที่จริงแล้วการงานคือคุณค่าที่เราสร้าง การทำงานเป็นรูปธรรมที่เรากำลังสร้างสรรค์ให้แก่โลก ถ้าเราได้เห็นว่างานของเรากำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ทำให้หลายชีวิตมีความสุขมากขึ้น เราก็จะกลับมาชื่นชมกับงานตรงหน้า และรู้ว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจ โลกกำลังดีขึ้นเพราะงานที่เราทำ
เรามีความสุขได้ในขณะกำลังทำงาน ผ่อนลดความคิดความคาดหวังผลลัพธ์ มองเห็นความสนุกสนานในความท้าทาย มองเห็นความพยายามจากการจัดการกับอุปสรรค และชื่นชมตัวเองกับการเอาใจใส่ในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ตรงหน้า
ความสุขจากการทำงาน
ความผาสุกในองค์กรแห่งการสร้างโอกาส
พอเรามาเน้นที่คน ถ้าเขาสามารถสงบใจได้ ยังไงเขาก็ทำสิ่งที่เป็นกุศล ผู้บริหารหนุ่มบอกเราอย่างเรียบง่าย แต่ทว่าสายตาดูมุ่งมั่น เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณเค ธรรมฤทธิ์ เอกสมิทธ์ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง วัยเพียง 30 ต้นๆ จากบริษัทเลิฟ ลีสซิ่ง จำกัด (Love Leasing) ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ปี ธุรกิจประสบกับสภาวะเกือบเจ๊ง ขาดทุนสะสมหลักร้อยล้าน
เขียนเพจเพื่อเป็นหมอที่ดีและมีความสุข
คุณหมอนางงาม อาจารย์แพทย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของเพจเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ‘หมอนางงาม Beautiful Mind Doc’ คือผู้บอกเล่าให้เราฟังถึงความสำคัญที่ตั้งใจสร้างเพจนี้ขึ้นมา เธอขอให้เราเรียกเธอว่า ‘หมอนางงาม’ ตามชื่อเพจ แทนการกล่าวถึงชื่อจริง เพื่อประโยชน์ระยะยาวในการดูแลคนไข้ได้อย่างเต็มที่ ย้อนกลับไปหลายปีก่อน เธอมาเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง และด้วยผลงานถูกใจอาจารย์ เลยอยู่ต่อเพื่อเป็นอาจารย์แพทย์ประจำสาชาวิชา
Ikigai คุณค่าของการมีชีวิตอยู่
คำบอกเล่าจากคุณพิม ณัฏฐ์ฐณิฏฐ์ ขำสุวรรณ์ ครีเอทีฟสาว อดีตนักปั้นมือทองผู้ปั้นศิลปิน ดารา นักร้องจากเวทีดังๆ อย่างเดอะ ว๊อยซ์ และผันตัวเองมาเป็นที่ปรึกษาและนักปั้นคนในองค์กรให้กับบริษัทเอกชนหลายแห่งด้วยกัน เธอเล่าให้เราฟังถึงเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิต เธอเคยรอดตายจากคลื่นยักษ์สึนามิในเมืองไทย บริเวณเขาหลัก จังหวัดพังงาเมื่อปี พ.ศ. 2547 จนกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าเราใช้ชีวิตราวกับวันนี้เป็นวันสุดท้าย เราจะทำอะไร
คืนความสุขให้องค์กรด้วย HRD 4.0
T.G.I.F (Thank God It’s Friday) วลีคุ้นหูที่เรามักพบเห็นในโลกโซเชียลมีเดีย โลกของคนทำงานที่ผ่านเช้าวันจันทร์มาอย่างยากลำบาก รู้สึกทนทุกข์ทรมานในการทำงานแต่ละวัน และได้แต่ภาวนาให้มันถึงวันศุกร์เสียที มันวนอยู่ในวงจรนี้ไปหลายเดือน จนหลายปี หลายคนโชคดีได้ออกมาทำงานที่ตนเองรัก แต่ก็อีกหลายคนที่ยังต้องทนทำงานในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ชอบ เพียงเพื่อความอยู่รอดหรือรายได้ในการดำรงชีวิตตามธรรมดาที่ต้องกินต้องใช้
เพลงสร้างสุขปลุกความสร้างสรรค์
งานวิจัยพบว่าเพลงที่ทำให้คุณมีความสุขจะช่วยปลุกความคิดที่หลากหลายได้ดี ทำให้เราได้ไอเดียและหาทางออกให้กับปัญหาได้ นักจิตวิทยาศึกษาผู้ร่วมทดลอง 155 คน อายุช่วงปลายวัยรุ่น พบว่าความคิดของพวกเขาสัมพันธ์กับเพลงที่เขาฟัง เมื่อพูดถึงความคิด นักวิจัยแบ่งความคิดที่ใช้ในการแก้ปัญหาออกเป็นสองแบบ คือ การคิดแบบลู่เข้า คือ การเอาทางเลือกต่าง ๆ มาประเมินหาคุณค่าและหาสิ่งที่ดีที่สุด เป็นวิธีที่เราใช้ในการจดจ่อกับบางสิ่ง เมื่อเรามีข้อมูลในหัวแล้ว และต้องการข้อสรุปที่ดีที่สุด ส่วนการคิดแบบแตกออก คือ
การทำงานอย่างมีความสุข : ก้าวย่างแห่งการพัฒนาจิต
ทั้งๆที่ “การทำงาน” คือความจำเป็นในการดำรงชีพ และเป็นวิถีชีวิตของผู้คนโดยทั่วไป แต่หลายต่อหลายคนมันได้กลายเป็นความฝืนใจ ความกดดันและความทุกข์ทรมาน กระทั่งเกิดคำถามขึ้นในใจอยู่เสมอว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่การทำงานกับ “ความสุข” จะก้าวเดินคู่กันไปอย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งคำถามนี้ได้นำมาสู่แนวทางหลากหลายที่น่าสนใจยิ่ง เพราะแม้มีเป้าหมายร่วมกันคือ การทำงานอย่างมีสุข ซึ่งกรมสุขภาพจิตได้ระบุว่า หากคนเราทำงานอย่างมีความสุข ผลพวงที่ตามมาก็ย่อมคือ “คุณภาพ” และ “ความสำเร็จ”