การสัมผัสธรรมชาติ
เมื่อพูดถึงธรรมชาติเรามักนึกถึงป่า ภูเขา ทะเล สวนสาธารณะ หรือการดูดาว การได้ใช้เวลาให้กับสิ่งเหล่านี้เป็นระยะๆ ย่อมดีต่อใจเรา แต่หากเราใช้ชีวิตในเมืองและไม่มีโอกาสแบบนั้น เราก็ยังสามารถสัมผัสธรรมชาติได้ตลอดเวลา เพราะธรรมชาติอยู่ใกล้เรากว่าที่คิด
ลองให้เวลากับตัวเองสัก 5 นาที มองต้นไม้ใบหญ้าใกล้ตัว ชมดอกไม้ เงยหน้ามองฟ้า วางโทรศัพท์มือถือแล้วฟังเสียงที่เกิดขึ้นรอบตัว เสียงลม เสียงของความเงียบ หรือเสียงของความคิด ลองเปิดดวงตา เปิดหู เปิดประสาทสัมผัสของเราให้รู้จักผืนดิน ไอแดด หยดน้ำ สิ่งเหล่านี้คือการได้สัมผัสกับธรรมชาติ
โอบกอดต้นไม้ใจเป็นหนึ่ง
ผู้คนมากมายให้นิยามตัวเองว่าเป็นคนรักต้นไม้เพราะชอบเดินดูต้นไม้ มีความสุขกับการปลูกการดูแลต้นไม้ หรือแม้แต่พูดคุยเปิดเพลงเล่นดนตรีให้ต้นไม้ฟัง แต่จะมีกี่คนที่เดินเข้าไปโอบกอดต้นไม้และได้สัมผัสกับความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หากให้บรรยายถึงความรู้สึกก็คงเป็นไปได้ยาก เช่นเดียวกับพี่ไก่ พรพีชา ธำรงวินิจฉัย บุคคลที่จะมาเล่าประสบการณ์ความเชื่อมโยงระหว่างตนเองกับต้นไม้และธรรมชาติให้เราฟัง พี่ไก่นักร้องประสานเสียงรุ่นแรกแห่งวงด้วงแมงแสดงธรรม และเป็นคุณแม่ผู้น่ารักของลูกชายทั้ง 2 คน
สวรรค์บนดิน สวรรค์ในใจ
เราเป็นลูกชาวไร่ชาวนา ที่ได้เห็นสภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์มาก เมื่อเทียบกับทุกวันนี้ ก็เหมือนกับสวรรค์ เราเห็นสวรรค์ตรงนั้น แล้ว 40 ปีต่อมาเราอยู่กับนรก เราจะอธิบายให้คนรุ่นหลังฟังได้อย่างไร เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ – ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ปราชญ์ชาวบ้านแห่งมหาชีวาลัยอีสาน
สวนผักกลางเมือง เพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างมีความสุข
น้องฝ้ายคนเมืองยุคใหม่ที่มีชีวิตในวัยเด็กจนถึงวัยสาวแตกต่างจากเพื่อนๆ ที่มีวิถีชีวิตในกรุงเทพ เพราะตั้งแต่จำความได้ พ่อก็บอกว่าให้บริโภคอาหาร เครื่องใช้ที่ไร้สารเคมีตั้งแต่เด็กๆ จนบางครั้งลงไปนอนเลียพื้นเป็นประจำ เพราะคุณแม่ใช้น้ำยาทำความสะอาดบ้านจากธรรมชาติ แม้แต่ของเล่น ของใช้ในบ้านต่างๆ คุณพ่อทำมันขึ้นมาเองกับมือทั้งหมด วันเสาร์อาทิตย์แทนที่จะไปเที่ยวเล่น น้องฝ้ายกลับมาช่วยคุณพ่อทำงานในสวนที่บ้าน จึงคุ้นชินกับการเล่นดิน จับไส้เดือนเล่นตั้งแต่เด็กๆ ทุกๆ อย่างเริ่มต้นเพราะคุณพ่อสนใจและตระหนักเรื่องนี้มากๆ ตอนที่มีลูก ใส่ใจเรื่องสุขภาพ จนเริ่มหันมาทำอย่างจริงๆ จังๆ
ฟื้นพลังชีวิตผ่านนิเวศภาวนา
ชีวิตคืออะไร คนเราเกิดมาทำไม เป้าหมายของชีวิตที่แท้จริงควรเป็นอย่างไร หลากหลายคำถามเกี่ยวกับชีวิตและจิตวิญญาณ บางคนคงไม่สนใจที่จะตามหาคำตอบ แต่ไม่ใช่สำหรับคุณณัฐฬส วังวิญญู กระบวนกรด้านจิตวิญญาณท่านนี้ เพราะมีคำถาม จึงออกเดินทางเพื่อค้นหาคำตอบ
ทำไร่ได้ธรรม
เริ่มต้นแบบ ‘เกษตรมั่วซั่ว’ คือลงมือทำไปก่อนเพราะถ้ามัวแต่หาข้อมูลซึ่งมีอยู่มากมายจนศึกษาไม่มีวันหมด ก็อาจจะยังไม่ได้ลงมือทำมันเลย ทำให้ไร่อยู่ดีมีสุขกลายเป็นเหมือนสวนสนุก ที่ได้มาปลดปล่อย ได้พัฒนาตัวเอง ได้ลองผิดลองถูกลองมั่วลองใหม่ เจอทั้งทุกข์และสุขมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี ดอกผลที่ได้จึงไม่ใช่แค่พืชผักผลไม้ให้เก็บกิน แต่เป็นธรรมะที่ค่อยๆ งอกงามขึ้นกลางใจและเรื่องราวดีๆ จากประสบการณ์จริงเพื่อส่งต่อให้ผู้อื่นทั้งคนรอบตัวชุมชนและส่วนรวม
จิตเปิดกว้างขณะจัดดอกไม้
‘เราจัดดอกไม้ หรือดอกไม้จัดเรา’ ใครหลายคนอาจเคยจัดดอกไม้กันมาบ้าง และสิ่งที่ต้องการจากการจัดดอกไม้คงหนีไม่พ้นได้แจกันดอกไม้ที่สวยงามถูกใจทั้งผู้จัดและผู้พบเห็น แต่มีอยู่ท่านหนึ่งที่บอก ‘ยิ่งจัดความสวยยิ่งไม่มี ยิ่งจัดรูปแบบก็ไม่สำคัญ’