เรื่องน่าสนใจ
สัมผัสความสุขแต่ละเส้นทางที่คุณสนใจ ผ่านบทความ คลิปวีดีโอ การร่วมกิจกรรม เพื่อให้คุณได้เข้าถึงความสุขจากการรู้จักความจริง
I See U ความสุขที่ใช้ ‘ใจ’ เห็น
ถึง….ใครบางคนที่กำลังคร่ำเคร่งกับชีวิต ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่พยายามทะยานมุ่งสู่เป้าหมายความสำเร็จประเภทที่ว่า…. ต้องมีตำแหน่งในองค์กรที่สูงลิบ ได้ค่าตอบแทนงามๆ มีบ้านหลังใหญ่ นั่งรถคันหรู แต่ในบางมุมชีวิตกลับเหนื่อยล้าและเกิดคำถามมากมาย…. เรื่องราวของผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ประกาศว่าชีวิตของตัวเองช่างแสนโชคดีและเปี่ยมสุขล้นคนนี้ อาจจะตอบคำถามลึกๆ ในใจของคุณได้ ก่อนหน้าที่ อรุณชัย นิติสุพรรัตน์ หรือ พี่ชัย จะมาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่ม I SEE U
‘โคริงกะ’ ดอกไม้จัดใจ (ตอนที่ 2)
คำว่า ‘โคริงกะ‘ เป็นภาษาญี่ปุ่น มีความหมายว่า ‘ดอกไม้แห่งแสงสว่างที่กระจายออกไปเพื่อช่วยเหลือคนอื่น‘ซึ่งการที่ดอกไม้สามารถไปช่วยเหลือผู้คนได้นั้น ก็เป็นเพราะว่าผู้ที่เรียนรู้การจัดดอกไม้โคริงกะนั้น อาจสามารถ ‘เปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตได้….ด้วยการจัดดอกไม้เพียงแจกันเดียว‘ ด้วยหลักการของการจัดดอกไม้โคริงกะ ที่ฝึกให้ผู้จัดดอกไม้นิ่ง กลับมาอยู่กับตัวเองและปัจจุบัน ทำให้คลื่นสมองของผู้จัดเกิดความสงบ คล้ายกับการนั่งสมาธิ จึงมีผู้นำการจัดดอกไม้ไปใช้กับเด็กกลุ่มพิเศษ เด็กออทิสติก ผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ ฯลฯ กระบวนการหลักของการจัดดอกไม้คือการทิ้งความคิด ใช้ความรู้สึก จึงทำให้สมองซีกขวาของเรา
‘โคริงกะ’ ดอกไม้จัดใจ (ตอนที่ 1)
การจัดดอกไม้โคริงกะ ไม่มีสูตรตายตัว ทุกอย่างเป็นไปตามความงามของดอกไม้ที่แต่ละคนมองเห็น เรียกได้ว่ายิ่งเรียนรู้การจัดดอกไม้โคริงกะมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมองเห็นใจของตนเองชัดขึ้นเท่านั้น พวกเรามักชอบเปรียบความสุขในใจกับแบตเตอรี่โทรศัพท์ เวลาชีวิตชักไม่ค่อยสุข คำที่ใช้กันบ่อยคือ แบตหมด แบตเสื่อม หลายคนจึงใช้เวลาออกไปท่องเที่ยวกับธรรมชาติเพื่อ “ชาร์จแบต ให้มีพลังกลับมาสู้ต่อ” ฟังดูราวกับว่าในธรรมชาติมี ‘พลังแห่งความสุข’ ให้เราได้ตักตวงอย่างมหาศาล ? ‘โมกิจิ โอกาดะ‘ ศิลปิน
‘ศิลปะจากธรรมชาติ’ เรียนรู้และเยียวยาชีวิต
ธรรมชาติสวยงามและยุติธรรมที่สุด การเข้าใกล้ธรรมชาติ ก็เหมือนเข้าใกล้ธรรมะ ถ้าเราไม่ต้านทาน ไม่ฝืน เราก็จะพบว่าทั้งสุขทั้งทุกข์ในชีวิตมันเป็นธรรมชาติทั้งคู่ ภาพหยดน้ำค้างกลมๆใสๆ ต้องประกายแสงอาทิตย์ กำลังทิ้งตัวลงมาบนใบไม้เรียวยาวสีเขียวสด ตรึงสะกดทุกสายตาให้ต้องหยุดมอง ความรู้สึกขณะจับจ้องเกิดเป็นความนิ่ง สงบ ณ ช่วงเวลานั้นคล้ายความงดงามจากธรรมชาติ กำลังเปิดดวงตาด้านในของเราให้มองเห็นสัจธรรมความจริงในชีวิต ขณะเดียวกันก็ต่อเติมกำลังใจที่เหนื่อยล้าของเรา ให้เต็มเปี่ยมด้วยความหวังและเกิดความสุขขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เปิดหัวใจใน ‘ห้องเรียนธรรมชาติ’
….วันนี้อยากจะมาชวนคุยเรื่อง ดิน ฟ้า อากาศ…. สมัยก่อนหากวงสนทนาใด เปิดประเด็นว่าด้วยการคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ คงมีความหมายแค่การคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไป แต่ในสมัยนี้ที่ดินฟ้าอากาศของเราช่างแปรปรวนนัก ฤดูกาลต่างๆ ทั้ง ร้อน ฝน หนาว สลับสับสน ยังมีภัยแล้ง น้ำท่วม พายุหิมะ แผ่นดินไหว สึนามิ ผลัดกันเข้ามาย่ำยีให้โลกของเรากลายสภาพเหมือนผู้ป่วยหนัก
ธรรมชาติช่วยให้เรามีความเอื้ออาทรมากขึ้น
ลองดูภาพสองภาพนี้นิ่งๆ สักพัก….แต่ละภาพทำให้คุณรู้สึกต่างกันอย่างไรบ้างครับ นักวิจัยพบว่าธรรมชาติช่วยให้เรามีความเอื้ออาทรกันมากขึ้น นักวิจัยจาก University of California Berkeley ให้ผู้ร่วมทดลองดูภาพวิวธรรมชาติที่สวยงามและสังเกตพฤติกรรมระหว่างการเล่มเกมทางเศรษฐศาสตร์สองเกม คือ Dictator Game และ Trust Game ซึ่งวัดความเอื้อเฟื้อและความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ตามลำดับ พบว่าผู้ที่ชมภาพธรรมชาติที่ยิ่งสวยเท่าไรก็จะมีความเอื้อเฟื้อและความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้นเท่านั้น ในอีกการทดลองหนึ่งที่ญี่ปุ่น ผู้ร่วมทดลองได้ถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม
ผสานพลังการทำสมาธิ + การวิ่ง ลดความคิดฟุ้งซ่านและอาการซึมเศร้าได้
เสริมพลังต้านความฟุ้งซ่าน ด้วยการผนวกการทำสมาธิเข้ากับการออกกำลังกาย งานวิจัยใหม่พบว่าการผสมผสานการทำสมาธิและการวิ่งจะช่วยลดภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยได้ และทำให้คนธรรมดามีสมาธิดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้นด้วยเช่นกัน มาลองทำกันดูไหม…? อาการอย่างหนึ่งที่พบในผู้ป่วยภาวะซึมเศร้า คือ ไม่สามารถหยุดคิดถึงเรื่องที่เศร้าๆ และความหลังฝังใจได้ อาการคิดซ้ำๆ ย้ำไปมานี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับสมอง 2 ส่วน คือ prefrontal cortex ซึ่งเป็นส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับความสามารถในการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และสมองส่วน hippocampus
เติมสุขในบ้านด้วยการภาวนา
การภาวนาต้องทำด้วยความสุข ความสุขจากการภาวนาจะเกิดขึ้นเองโดยไม่มีใครบังคับ พอเกิดขึ้นแล้วเราจะใช้ชีวิตสบายขึ้น มีความสุขง่ายขึ้น มันจะไม่มีความรู้สึกต้องไปตามหาอะไรมากมายอีกแล้ว หลายปีก่อน ‘การภาวนา’ มักนิยมปฏิบัติกันเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย คุณปู่-คุณย่า คุณตา-คุณยาย ไปวัด ลูกหลานก็อยู่บ้านกันไป . ต่อมากลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มสนใจการภาวนา ลูกวัยทำงานเริ่มมาฝึกภาวนา พ่อแม่ก็อยู่บ้าน บางบ้านคุณแม่มาฝึกภาวนา ทิ้งให้พ่อลูกอยู่บ้านดูแลกัน .
การถ่ายภาพเชิงภาวนา
การถ่ายภาพเชิงภาวนา คือการฝึกภาวนาด้วยการมอง เรียนรู้การมองเห็นโลกด้วยมุมมองที่สดใหม่ เกิดเป็นสุขภาวะทางปัญญา มองเห็นความง่ายงามจากสิ่งธรรมดาๆ ที่อยู่รอบตัว หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ เมื่อเราออกเดินทางกับเพื่อนสักคน ต่างคนต่างถ่ายภาพระหว่างทาง แต่ทั้งๆ ที่ไปที่เดียวกันแท้ๆ ภาพที่ได้กลับไม่เหมือนกัน ของธรรมดาๆ บางอย่างที่เราไม่เคยสังเกตเห็น เช่น ดอกไม้ริมกำแพง หยดน้ำค้างบนยอดหญ้า เงาของเสาไฟฟ้าที่ทอดยาวบนพื้นถนน บางครั้งคนอื่นกลับมองเห็น และถ่ายทอดออกมาสวยงามจนคาดไม่ถึง