คำถามถึงความสุข
Q: การภาวนา นอกจากจะต้องไปนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ยังมีวิธีภาวนาอย่างอื่นรึเปล่าคะ ?
A: ในเรื่องของการภาวนา หลวงพ่อชา สุภัทโท ท่านจำกัดความไว้น่าสนใจว่า “การภาวนา คือ ความรู้สึกผิดชอบอยู่ตลอดเวลา” คือท่านไม่ได้จำกัดความว่า การภาวนา คือ การนั่งหลับตาอยู่ในที่สงบวิเวก คือ การเดินจงกรม แต่ท่านว่าไม่ใช่นั่งเพียร นอนเพียร เดินเพียร แต่ความเพียรอยู่ที่จิต
Q: ตอนนี้ก็ทำงานจิตอาสาอยู่เล็กๆน้อยๆ เท่าที่โอกาสอำนวย ทำอย่างไรให้กล้าเดินออกมาได้ ได้มั่นคง และมั่นใจคะ
A: ก่อนอื่น ต้องขออนุโมทนาบุญสำหรับกุศลกรรมและกุศลจิต ที่คิดอยากจะออกมาทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมครับ จริงครับ ผมก็เห็นด้วยว่าการทำงานช่วยเหลือผู้อื่นนั้น มีความสุข แต่หากเราช่วยเหลือผู้อื่นแล้วเราต้องลำบาก นั่นกลายเป็นว่าเราทอดทิ้งไม่ช่วยเหลือผู้ที่สมควรช่วยเหลือมากที่สุด นั่นก็คือ
Q: ทำไมเราต้องพึ่งพาตัวเองด้วยครับ ในเมื่อสังคมบ้านเราก็เป็นแบบอุปถัมภ์ พึ่งพาคนอื่นก็สบายดีแล้วยังก้าวหน้าเร็วอีก
A: เราต้องพึ่งตนเองก่อน เมื่อเราทำสิ่งไหนที่มันยุ่งยาก เราทำไม่ได้ค่อยพึ่งคนอื่น พึ่งเจ้าหน้าที่ พึ่งพาคนอื่น อันนี้การร่วมมือช่วยกันคิดร่วมกันทำ แต่ละคนต้องมือสะอาด ปากสะอาด
Q: ได้ยินเกี่ยวกับความสุขจากการภาวนา และได้สัมผัสบ้างในบางครั้งกับตนเอง แต่ก็ยังพบว่าความสุขที่เกิดจากการภาวนายังน้อยกว่ากิเลสที่เกิดขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความเบื่อ ความขี้เกียจ ทำอย่างไรถึงจะก้าวข้ามจุดนี้ไปให้ได้คะ
A: เราจะไม่เบื่อหน่าย หากเราประสบผลของการภาวนาซึ่งนำไปสู่ความสุขที่ยั่งยืน แต่ผลของการภาวนาดังเช่นผลของการงาน การเรียนหนังสือ และกิจกรรมอื่นๆในชีวิตไม่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในวันสองวันค่ะ แต่ใช้เวลาเช่นการทำสมาธิ เราจะประสบผลเมื่อเราทำอย่างต่อเนื่อง
Q: ถ้าไม่มีคำว่า “deadline” คนเราจะ active กับการทำงานได้ยังไงบ้างครับ
A: ลองหากระดาษมาสักแผ่นหยิบปากกาสักด้ามแล้วมาสำรวจตัวเองกันดีกว่า เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมแล้วลงมือเลยนะครับอย่าแค่อ่านเฉยๆ
Q: ความสำเร็จในชีวิตคืออะไรครับ แล้วผมจะมีความสุขได้ไหม ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ
A: สมมติมีหน้าที่เช็ดพื้น ถูพื้น ความสำเร็จคือความสะอาดใช่ไหม สมมติทำงานชื้นหนึ่ง เขียนบทความ พอเขียนบทความเสร็จมันคือความสำเร็จใช่ไหม ถ้าจะมองว่าบทความนี้จะต้องได้รับการตีพิมพ์ คนจะต้องชื่นชม นั่นคงไม่สามารถเรียกได้ว่าความสำเร็จ