การฟังคือหน้าที่แรกของการรัก Listen is the first duty of Love
มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ต้องการความรัก และทุกคนต้องการผู้ฟังที่ดีสักคนหนึ่งในชีวิต การให้เวลาเพื่อฟังเขา คือ การให้ชีวิตส่วนหนึ่งของเรา เป็นการบอกกับคู่สนทนาว่า เขามีค่า เขาเป็นคนสำคัญของเรา
.
- การฟังเป็นปัจจัยพื้นฐานในการหล่อเลี้ยงความรักและความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ทั้งความรักแบบคู่รัก ความรักในครอบครัว ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และความสัมพันธ์ในสังคม
- พวกเราทุกคนล้วนแตกต่าง มีความซับซ้อนเฉพาะตัว แต่หากพวกเราฟังกันได้ดี ความซับซ้อนและหลากหลายก็ไม่ได้เป็นปัญหา แต่เป็นความรุ่มรวย และมหัศจรรย์
- มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ต้องการความรัก และทุกคนต้องการผู้ฟังที่ดีสักคนหนึ่งในชีวิต ไม่ว่าเขาจะอยู่เจนเนอเรชั่นไหน อายุเท่าไร เพศอะไร รวยหรือจน — ทุกคนต้องการความรักและการรับฟัง
- ปัจจัย 4 ประการต่อไปนี้ จะช่วยให้พวกเราฟังผู้อื่นได้อย่างมีคุณภาพ นำไปสู่การเข้าใจซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดความรัก ความผูกพัน ซึ่งจะช่วยให้ความสัมพันธ์ยั่งยืนและมั่นคง
.
1.ให้เวลาคนตรงหน้า 100%
การให้เวลา คือ การให้ชีวิตส่วนหนึ่งของเรา ดังนั้นการให้เวลาอย่างแท้จริง จดจ่อ และใส่ใจจึงเป็นการบอกกับคู่สนทนาว่า เขามีค่ากับ เขาเป็นคนสำคัญของเรา
เจ้านายฟังลูกน้อง เป็นการบอกว่า ‘คุณเป็นคนสำคัญของผม คุณมีค่า ผมถึงมอบเวลาตรงนี้ให้’
แม่นั่งฟังเรื่องราวของลูกคือการบอกว่า “เพราะแม่รักลูก ทุกเรื่องราวของลูกจึงมีความหมายเหลือเกินสำหรับแม่”
การให้เวลาเป็นการแสดงออกถึงความรัก ดังนั้น การให้เวลาเพื่อรับฟังจึงไม่ใช่การฟังเมื่อเกิดปัญหา “ถ้าเกิดปัญหาลูกมาหาพ่อได้เลย (พ่อจะช่วยแก้)” และ ไม่ใช่การฟังเฉพาะเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้ใจฟู แต่เรามีเวลาเพื่อรับฟังเพราะ คนตรงหน้ามีค่าสำหรับเรา —ฟังเพื่อรับรู้ปัญหา ฟังเพื่อร่วมยินดี ฟังเพื่อสนับสนุน ฟังสิ่งที่ไม่กล้าเปิดเผย ฟังทุกสิ่งที่เขาอยากบอกกับเรา
.
2. เป็นพื้นที่ปลอดภัย
มนุษย์ทุกคนต้องการพื้นที่ปลอดภัย พื้นที่ปลอดภัยเป็นพื้นที่แห่งการเยียวยา ความรักและความสัมพันธ์ที่มั่นคง มีความสุข จำเป็นต้องมีพื้นที่ปลอดภัย “ผู้ฟังที่ดีเป็นพื้นที่ปลอดภัย” หลักสำคัญ พื้นฐานคือ ฟังให้จบ ไม่แทรก ไม่ถาม และยังไม่ต้องแนะนำ หรือสั่งสอน คาถาพื้นฐานขอให้ท่องเอาไว้ “ที่เขายอมเล่าก็เพราะมีคนอยากฟัง” การที่ใครสักคนยอมเปิดเผยเรื่องราวของเขา นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่า คนตรงหน้าพร้อมที่จะฟังเรื่องราวเหล่านั้น วัยรุ่นรักเพื่อนเพราะเพื่อนฟังเขา ดังนั้นหากพ่อแม่อยากให้ลูกเข้าหา พ่อแม่ก็ต้องเริ่มด้วยการนั่งลงแล้วฟังเรื่องราวของลูก— ฟังให้จบ ไม่ซัก ไม่แทรก ไม่สอน ไม่สั่ง ฟังเท่านั้น ฟังให้ได้ยิน
.
3.เคารพความแตกต่าง
คนรักกันอาจจะเริ่มต้นจากความชอบที่เหมือนกัน มีมุมมองบางเรื่องคล้ายๆ กัน เชื่อมโยงกันด้วยความเหมือน แต่ความรักจะแข็งแรงเพราะความต่าง ความรักและความสัมพันธ์จะถูกทดสอบเมื่อเกิดความขัดแย้ง เมื่อคิดต่างกัน เห็นต่างกัน เชื่อต่างกัน มีวิธีการที่แตกต่างกัน — ถึงตอนนั้นเราจะดูแลกันได้อย่างไร
ลูกเกิดมาจากพ่อแม่ แต่เขาก็ต่างจากพ่อแม่ เติบโตมาคนละยุค คนละสภาพแวดล้อม ต่างค่านิยม ถ้าพ่อแม่เข้าใจความแตกต่างได้ ลูกก็พร้อมจะเติบโตและเป็นตัวของตัวเอง ความขัดแย้งจำนวนมากมีเหตุมาจากความหวังดี
.
4.สติ – ความเท่าทัน
ในระหว่างการฟังความรู้สึกน้อยใจ เสียใจ โกรธ ถ้าไม่มีสติเท่าทัน ความกระทบกระทั่งก็อาจจะเริ่มก่อตัว แต่ถ้ามีสติ ทันตัวเอง เราก็จะรู้ว่า เราต้องการความรักและความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ใช่ความถูก-ผิด แพ้-ชนะ
.
.
ดังนั้น เมื่อฟังใจของเขา ก็อย่าลืมกลับมาฟังใจตัวเองด้วย ฟังให้ได้ยินมากกว่าเสียง มากกว่าคำ แต่ขอให้ได้ยินความรู้สึกและความต้องการของเขาที่ลึกลงไป
“ที่คุณโกรธขนาดนั้น เพราะคุณกำลังเป็นห่วงฉันใช่ไหม”
“ที่คุณหัวเสีย สติแตกขนาดนั้น เพราะคุณรักฉันใช่ไหม”
.
หากฝึกและสร้างเงื่อนไข ปัจจัยเหล่านี้ได้ การฟังก็ย่อมได้การพัฒนา ความสัมพันธ์ที่ยากก็จะได้รับการเยียวยา ความรักจะหยั่งราก เติบโต แผ่กิ่งก้าน สาขา เป็นทั้งความอบอุ่นและร่มเย็น
………………………………………………………..
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
https://www.happinessisthailand.com/2023/09/04/spiritual-relation-lovelanguage-healing/
https://www.happinessisthailand.com/2022/08/02/spiritual-listen-coach-happiness/