เฝ้ามองสุขเล็กๆ เกิดขึ้นในใจ
เรื่องและภาพ : ธนกาญจน์ ชุ่มจิตต์
เมื่อเรียนจบปริญญาตรี ผมเลือกกลับมาอยู่บ้านทำสวนผลไม้ของพ่อแม่ที่จันทบุรีทันที ด้วยแนวคิดที่ผมต้องการให้สวนนี้ปลอดสารเคมีทุกชนิด ซึ่งแตกต่างจากพ่อแม่ เราจึงมักขัดแย้งกันเรื่องการทำสวนอยู่เสมอ
ตัวผมเองยังอ่อนประสบการณ์ ไม่มีเหตุผลมากพอไปอธิบายโต้แย้ง แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้ห้ามผมทำในสิ่งที่ตั้งใจ เพียงแต่ต้องทำด้วยตัวเองและพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นก่อน ท่านจึงจะยอมปล่อยให้ผมดูแลสวนเนื้อที่ 26 ไร่ ด้วยตัวเองได้
.
.
.
สวนของผมชื่อ ME FARM SUK CRAFT สำหรับผม มันเป็นสวนที่ไม่น่าเบื่อ ไม่ได้มีเพียงไม้ผลทางการเกษตร แต่เป็นสวนที่มีความหลากหลายทั้งพื้นที่และพรรณไม้ มีบริเวณเนินซึ่งเป็นสวนเงาะ ทุเรียน มังคุด มีพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ชุ่มน้ำ (ชั่วคราว) มีหนองน้ำและลำคลองเล็กๆ มีนาข้าว มีบริเวณที่สภาพเป็นแบบทุ่งหญ้าและป่าผืนเล็กๆ
.
ปัจจุบันสวนที่ผมตั้งใจทำยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ยังไม่สามารถเลิกใช้เคมีได้ทั้งหมด และยังคงต้องพยายามต่อไปให้สำเร็จได้ดังฝัน
.
งานแรกของผมคือการตัดหญ้า เป็นงานหลักที่ต้องเรียนรู้ให้ช่ำชองและลงมือทำด้วยตัวเองทั้งหมด เพราะต้องการให้สวนนี้ไม่ปนเปื้อนสารเคมีกำจัดวัชพืชโดยเด็ดขาด
.
ผมเรียนรู้เรื่องตัดหญ้ามาปีกว่าแล้ว แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็มีความสุขแฝงอยู่ จากการได้พบเจอเหล่าแมลงตัวเล็กๆ และสัตว์ตัวน้อยๆ อยู่เสมอ ผมชอบเฝ้ามองการดำรงชีวิตและพฤติกรรมของพวกมัน ตั้งแต่แมลงตัวเล็กเท่ามดไปจนถึงสัตว์ตัวใหญ่เท่านกยางในนา มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นจากบรรดาแมลงและสัตว์เหล่านี้
.
บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ (ชั่วคราว) ใน ME FARM SUK CRAFT ตอนพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าจะมีแมลงปอมาบินวนเวียนอยู่ ช่วงฤดูฝนเมื่อน้ำในร่องน้ำมีปริมาณมากจนเอ่อล้นออกมา พื้นที่ชุ่มน้ำนี้ก็จะมีแมลงปอมาผสมพันธุ์กัน
.
ที่รู้สึกวิเศษที่สุดคือ ครั้งหนึ่งผมได้นั่งมองแม่แมลงปอเข็มตัวหนึ่งวางไข่ ปกติเคยเห็นแต่แมลงปอบินโฉบลงที่ผิวน้ำ จุ่มหางแล้วก็ปล่อยไข่ แต่วันนั้นผมเห็นแม่แมลงปอตัวนี้บินลงยังผิวน้ำที่มีพืชน้ำอยู่ แล้วค่อยๆ ไต่บนพืชน้ำนั้นจนดำลึกลงในน้ำเกือบหนึ่งคืบก่อนวางไข่ มันใช้เวลาวางไข่อยู่สักพักจนผมคิดว่ามันคงจะจมน้ำตาย แต่แล้วผมก็ได้เห็นมันผุดพ้นผิวน้ำขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วบินแผล็วจากไป นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นการวางไข่ใต้น้ำของแมลงปอเข็ม
.
อีกครั้งหนึ่งขณะเดินลุยฝ่าพงหญ้ารกสูงเท่าเอว ผมได้ยินเสียงซวบซาบใกล้ๆ จึงหันไปทางที่มาของเสียงทันที ก็ได้พบกระต่ายตัวใหญ่กำลังกระโจนหนีอย่างเร็วเพราะตกใจที่ผมเดินเข้าไปใกล้มันเกินไป
.
.
.
ต่อมาอีกไม่กี่เดือน เมื่อผมตัดหญ้าก็พบลูกกระต่ายตัวน้อยๆ คลานดุกดิกๆ หนีไปตามพงหญ้า และยังเห็นเต่าทั้งตัวเล็กตัวใหญ่เดินต้วมเตี้ยมอยู่บ่อยครั้งและพบในบริเวณเดิมอยู่เสมอ ทำให้คิดว่าบริเวณนี้อาจเป็นแหล่งหากินหรือที่พักพิงของพวกมัน
.
อีกคราวขณะตัดหญ้าใกล้กับพื้นที่ชุ่มน้ำชั่วคราว ผมสังเกตเห็นก้อนดำๆ กลมๆ กลุ่มหนึ่งลักษณะเหมือนไข่มุกในชานม พอเข้าไปมองใกล้ๆ ก็ถึงกับตกใจ เพราะผมตัดหญ้าไปโดนรังของเขียดงูจนปากรังเปิดออก แต่แม่เขียดงูและไข่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ไข่ของเขียดงูมีวุ้นบางๆ ห่อหุ้ม มองเห็นลูกน้อยของมันขยับตัวไปมาอยู่ภายใน
.
รังของเขียดงูเป็นหลุมตื้นๆ คาดว่าแม่เขียดงูมุดไปอยู่ใต้ใบไม้แห้งเพื่อให้เป็นฝาปิดปากรังแล้วค่อยๆ ขุดหลุมลงไป หลังจากชื่นชมแล้วผมก็เอาใบไม้มาปกปากรังและจัดสภาพแวดล้อมให้คืนสภาพเดิมที่สุด ให้มีร่มเงาด้วยการทำหลังคาจากหญ้าที่เพิ่งตัด นี่นับเป็นภาพประทับใจภาพหนึ่งที่ผมเคยได้เฝ้ามอง และเป็นอีกวันหนึ่งที่มีความสุขมากๆ
.
หลังจากนั้นเป็นต้นมาผมพยายามตัดหญ้าให้เหลือสูงประมาณหนึ่งคืบเพื่อไม่ให้ไปโดนสัตว์จนได้รับบาดเจ็บ ส่วนตรงที่เต่าอยู่อาศัยก็ตัดให้เหลือหญ้าสูงราวๆ หัวเข่า หญ้าบริเวณที่ไม่ถูกตัดยังคงเป็นที่พักพิงของแมลงและที่หลบซ่อนตัวของสัตว์เล็กได้เหมือนเดิม
.
ความรู้สึกพิเศษเกิดขึ้นในใจจากการที่สวนของผมเหมาะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของบรรดาสัตว์ตัวน้อยๆ ผมถูกใจกับสวนของตนเองมากขึ้นๆ มันช่วยให้ผมกระตือรือร้นอยากจะทำงานอยู่ในสวนตลอดเวลา ผมมองตัวเองในภาพฝันว่า วันหนึ่งผมได้ทำให้สวนนี้กลายเป็นสถานที่แห่งความเพลิดเพลินสำหรับทุกคนที่มาเยือน
.
.
.
แมลงตัวเล็กๆ และสัตว์ตัวน้อยๆ เหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกเชื่อมโยงถึงความเป็นเด็กในตัวเอง ผมตื่นเต้นกับธรรมชาติรอบตัว สนุกกับการถ่ายรูปพวกมัน นี่คือความสุขแบบเด็กๆ ซึ่งไม่ต้องไขว่คว้าจากสิ่งไกลตัว เพียงแค่เฝ้ามองธรรมชาติและรับรู้ถึงความสุขที่เกิดภายในตัวเราเอง
.
เด็กๆ ต้องการธรรมชาติ ผมเชื่อว่าหากได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่ดี รายล้อมด้วยดอกไม้ใบหญ้า ผีเสื้อ เต่าทอง แมลงชนิดต่างๆ กบ และสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย พวกเขาจะเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับธรรมชาติและได้รับการปลูกจิตสำนึกให้รักและหวงแหนธรรมชาติ เด็กๆ จะมีจิตใจที่งดงาม มีความอ่อนน้อม เอื้อเฟื้อ และเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ที่เคารพทุกๆ ชีวิต
.
ผมชอบธรรมชาติในสวนของตัวเอง ทำให้รู้สึกกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจนอยากจะพัฒนาสวนนี้ให้เป็นที่ที่เด็กๆ ได้มาสนุก เรียนรู้ ได้เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ดังนั้นจึงตั้งชื่อสวนว่า ME FARM SUK CRAFT ซึ่งออกเสียงคล้ายเด็กพูดว่า “มีฟามสุขคร้าบ…”
.
เป้าหมายหลักของสวนไม่ใช่การทำเกษตรอินทรีย์ ผมไม่ใช้วัสดุธรรมชาติใดๆ เพื่อไล่แมลงที่มาทำลายพืชผล แต่จะเฝ้ามองวิธีจัดการตัวเองของธรรมชาติ เช่นปล่อยให้หนอนกินใบของต้นกระเจี๊ยบเขียวโดยไม่หยิบมันออก ผมจึงมีโอกาสได้เห็นการกำเนิดของแตนเบียน และปริมาณตัวห้ำตัวเบียนก็เพิ่มขึ้น
.
ผมยึดหลักการทำเกษตรโดยคำนึงถึงความสัมพันธ์เชิงนิเวศ ทำด้วยความเคารพธรรมชาติ และดำเนินชีวิตโดยเชื่อมโยงจิตวิญญาณของเราเข้ากับธรรมชาติและชีวิตอื่นในสวน…เพียงแค่นึกถึงผมก็มีความสุขแล้ว
.
แม้ตอนนี้ยังดูเป็นสวนธรรมดาไม่แตกต่างจากสวนอื่น แต่ผมหวังว่า วันหนึ่งสวนแห่งนี้จะมีโอกาสได้ต้อนรับเด็กๆ เข้ามาสัมผัสธรรมชาติ ผู้ใหญ่ได้มาพักผ่อนคลายความเครียดจากหน้าที่การงานแล้วกลับมาเป็นเด็กอีกครั้งด้วยการเฝ้ามองเหล่าแมลงตัวเล็กๆ และสัตว์ตัวน้อยๆ ทั้งยังได้มองดูเด็กๆ วิ่งเล่นอย่างมีความสุขสนุกสนาน ในพื้นที่ที่ทุกชีวิตอยู่อย่างเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน