ชีวิตกับเมล่อนผู้โชคดี
เรื่องและภาพ : ฐปกร ลิขิตนภาเวทย์
ซึ่งบางสิ่งดูคล้ายไม่จำเป็น และหลายขั้นตอนคล้ายไม่สำคัญ ทว่าความจริงล้วนพิสูจน์แล้วว่าทุกสิ่งนั้นสำคัญเกินกว่าที่เราเข้าใจ
รสชาติหวาน กลิ่นหอม ชวนให้ผมนึกถึงเรื่องราวมากมายตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ผมมองเนื้อผลไม้สีส้มที่วางอยู่ในชามเบื้องหน้า คิดถึงกระบวนการต่างๆ นานาที่สรรค์สร้างผลไม้ผลนั้นขึ้นมา
.
ผลไม้ลูกกลมสีเขียวขนาดพอๆ กับลูกมะพร้าว ตลอดทั้งผลเต็มไปด้วยลวดลายตาข่าย เป็นผลไม้ในตระกูลแตง (Cucurbitaceae) หรือที่เราเรียกว่าเมล่อน วางอยู่ข้างชามใบนั้น ผมคงไม่สนใจผลไม้ชนิดนี้เท่าไร ถ้าหากไม่ใช่เพราะมันช่วงชิงเวลากว่า 3 เดือนของผมไป และนั้นคือช่วงเวลาหนึ่งที่ผมได้เข้าใจ ว่าแม้ผมไม่อยากจะปลูกผลไม้ชนิดนี้เพื่อยึดเป็นอาชีพอีก แต่สิ่งที่ได้รับจาก 3 เดือนนี้ก็คงไม่เลือนหายไปจากชีวิตผม
.
.
หนึ่งช่วงเวลา หลากสถานะ
ชีวิตมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายของผมเริ่มต้นด้วยการเดินทางสู่จังหวัดนครนายก ในตำแหน่งนักศึกษาฝึกงาน ที่จำต้องเริ่มงานในช่วงเวลาที่โรคร้ายกำลังแพร่ระบาด ณ สถานที่ซึ่งปราศจากภาพลักษณ์ของบริษัทโดยสิ้นเชิง หากแต่ดูคล้ายสวนทดลองอันเต็มไปด้วยโรงเรือนเล็กใหญ่ที่ว่างเปล่า และงานที่ได้รับมอบหมายทำให้ผมไม่แน่ใจว่าสรุปแล้วผมคือเกษตรกร กรรมกร หรือนักศึกษาฝึกงานกันแน่ แต่บางทีชีวิตคนเราในทุกช่วงเวลาก็คงมิได้มีสถานะใดเพียงสถานะหนึ่งอยู่แล้วกระมัง ผมจึงได้ข้อสรุปแสนสั้นท่ามกลางหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นั้นว่า ผมก็เป็นทุกอย่าง เท่าที่ผมเลือกจะเป็น
.
ในสถานที่ห่างไกลจากตัวเมือง ปราศจากแสงสี ผมและเพื่อนอีกห้าชีวิตได้รับมอบหมายหน้าที่ต่างๆ มากมาย ต้องเหน็ดเหนื่อยจากงานที่ทำ ความยากลำบากของการห่างไกลแสงสี ไร้สิ่งอำนวยความสะดวกที่เคยมี แต่ขณะเดียวกันก็สอนให้ผมได้เรียนรู้คำว่าชีวิตมากยิ่งขึ้น อาจเพราะการทำงานครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลชีวิตมากมาย ไม่ว่าสิงสาราสัตว์น้อยใหญ่ซึ่งกลายมาเป็นผู้ร่วมอยู่อาศัย ทั้งจอนนี่ แกะตัวผู้หนึ่งเดียวที่สนิทชิดเชื้อกับทุกคนง่ายดาย ทักทายทุกคนซึ่งหันหลังให้ด้วยการพุ่งเข้าชน มิกกี้ซึ่งเป็นทั้งแม่และภรรยาของจอนนี่ พุ่งเข้าหาทุกคนที่มีของกินในมือ เจนนี่และริซ่า แกะน้อยทั้งสองซึ่งยังไม่คุ้นชินกับคนเท่าไร เพราะเพิ่งเข้ามาพร้อมพวกผม เจมส์ ไก่ชนจอมแสบที่เปลี่ยนแฟนไปเรื่อย ปีโป้และเจเล่ เป็ดสองตัวซึ่งมีชื่อเพราะชอบมายืนรอหน้าครัวขออาหารกิน ยังมีเพชรและพลอย ควายดื้อที่ชอบหลุดหายจนต้องช่วยกันตามหาเป็นการใหญ่ รวมทั้งเจอรี่ ปูนาที่อาศัยอยู่ใต้เล้าเป็ดซึ่งไม่ได้เลี้ยงเป็ดแต่เป็นที่ตั้งเต็นท์ของพวกผม และยังมีงานสำคัญที่ผมต้องดูแลเมล่อน ซึ่งเป็นพืชที่เติบโตรวดเร็วยิ่งกว่าหลายชีวิตที่ผมเคยพบเจอ
.
.
ต้นไม้ต้นเดียว
สำหรับการเพาะเมล็ดเมล่อน ในหนึ่งถาดเพาะอาจไม่ได้ใช้จำนวนเมล็ดมากสักเท่าไร แต่มันทำให้ผมรู้สึกโชคดีเหลือเกินเมื่อได้เห็นต้นอ่อนเหล่านั้นค่อยๆ เติบโต เพราะกว่าจะได้เมล็ดพันธุ์มาสักเมล็ดไม่ใช่เรื่องง่าย และยิ่งไม่ง่ายเช่นกันที่จะเพาะต้นอ่อน และจะยิ่งลำบากหากอยากให้ต้นอ่อนนั้นเติบใหญ่จนพร้อมจะให้ผลิตผลที่สมบูรณ์ ทำให้ผมได้เรียนรู้ถึงคำที่ว่า
.
.
.
“เมล็ดพันธุ์มากมาย สุดท้ายอาจได้ต้นไม้เพียงต้นเดียว”
ผมเคยเข้าใจประโยคนี้ว่าเมื่อเราหว่านเมล็ดพันธุ์ไปมากมาย อาจมีเมล็ดพันธุ์ที่เติบโตขึ้นมาได้เพียงเมล็ดเดียว แต่วันนี้ผมเข้าใจถึงความหมายที่เปลี่ยนไป ว่าบางทีคงมีเมล็ดพันธุ์ที่เติบโตขึ้นมาได้มากกว่านั้น หากแต่มีเมล็ดพันธุ์ที่เติบใหญ่จนเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงพร้อมให้ผลิตผลต่อไปเพียงต้นเดียวมากกว่า
.
.
ช่วงเวลาของเมล่อน
แรกเริ่มของการปลูกเมล่อนไม่ได้ต่างจากการปลูกต้นไม้ชนิดอื่นเท่าไร เพียงให้น้ำอย่างเพียงพอ อยู่ในสภาพแวดล้อมเหมาะสม การเพาะต้นอ่อนจึงไม่ใช่เรื่องยากลำบากเกินไป หากแต่เมื่อต้นอ่อนเติบใหญ่ขึ้น ความต้องการนั้นกลับยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
.
เมื่อย้ายต้นอ่อนเมล่อนลงในดินซึ่งผ่านการปรับสภาพไว้ ก็เปรียบดังเด็กคนหนึ่งที่เริ่มเติบโตและเข้าโรงเรียน เด็กน้อยต้องการสิ่งใด เมล่อนต้นนั้นก็เช่นกัน หากอยากให้เด็กน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ ก็ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและเหมาะสม เด็กน้อยเติบโตขึ้นทุกวัน แต่เมล่อนกลับยิ่งเติบโตเร็วกว่า
.
ทุกวันเมล่อนจะเติบโตขึ้นเสมอ ทุกเช้าผมต้องตื่นมาตัดแขนง นับจำนวนใบเพื่อกำหนดปริมาณปุ๋ย ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่จำนวนใบเพิ่มขึ้น ต้องคำนวณเพื่อกำหนดรอบในการให้น้ำและเวลาในแต่ละรอบให้เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ต้องคอยพันยอดของเมล่อนให้ทอดไปในแนวทางที่ถูกต้อง
.
เมื่อถึงช่วงผสมเกสร ผมต้องนับแขนงและผสมเกสรตัวเมียตั้งแต่แขนงที่ 9 ขึ้นไป ต้องตื่นเช้าเพื่อผสมให้ทันก่อนแดดเริ่มแรง เพราะจะทำให้ความชื้นไม่เพียงพอและผสมเกสรไม่ติด ซึ่งสอนให้ผมได้เรียนรู้และเข้าใจ ว่าบางสิ่งแม้ดูคล้ายว่ายังสามารถให้ผลประโยชน์ได้มากมาย แต่เมื่อเราพลาดช่วงเวลาที่เหมาะสม ต่อให้พยายามเพียงไหน ก็ไม่อาจไขว่คว้าผลลัพธ์นั้นได้ ดังเช่นเมื่อผมช่วยผสมเกสรเมล่อนตอนสาย แม้ทุกสิ่งยังคงเดิม แต่ผมก็ไม่มีโอกาสเห็นผลเมล่อนจากดอกไม้ดอกนั้นแล้ว
.
.
.
เมล่อนผู้โชคดี
ใช่ว่าเมล่อนหนึ่งต้นจะออกผลเพียงผลเดียว แต่หากเราต้องการให้ได้ผลสมบูรณ์ หวาน หอม และอร่อย จำเป็นต้องตัดผลเมล่อนในต้นให้เหลือผลเดียว เพื่อให้สารอาหารไปเลี้ยงผลอย่างเพียงพอ
.
ทุกขั้นตอนทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นผู้สร้างชีวิตของเมล่อนนั้นขึ้นมาเอง และพวกมันก็ช่างโชคดีเหลือเกินที่มีผมคอยดูแลเอาใจใส่ทุกวัน ไม่ต้องดิ้นรนไขว่คว้าสิ่งใดเพื่อจะเติบโต แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า แท้จริงแล้วใช่เพียงเมล่อนเท่านั้นหรือที่โชคดี
.
ตัวผมก็อาจไม่ได้แตกต่างจากเมล่อนเสียเท่าไร ทำให้ผมต้องกลับมาลองถามตัวเองว่าตัวผมโชคดีเพียงไหน ได้เจอสิ่งดีมามากเท่าไร ผมจึงเติบโตมาถึงทุกวันนี้ และคำตอบที่ผมได้พบก็ช่างมากมายเหลือเกิน
.
ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมก็โชคดีไม่ต่างจากเมล่อนนัก เมล่อนต้นที่ได้เป็นหนึ่งในไม่กี่เมล็ดพันธุ์ที่เติบโตเป็นต้นกล้า ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวที่ถึงแม้จะไม่ค่อยอบอุ่น แต่ก็มีสารอาหารมากมายที่ครบถ้วนและเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของผม ทั้งที่พัก อาหาร การศึกษา และสิ่งจำเป็นต่างๆ ที่ผมไม่เคยขาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมไม่ได้พยายามไขว่คว้าเพื่อครอบครอง หากแต่เป็นสิ่งดีๆ ที่ผู้คนรอบกายช่วยกันสรรค์สร้างและแบ่งปันให้ผม คล้ายดังที่ผมสร้างและบันดาลแก่เมล่อนเหล่านั้น
.
อาจเพราะการปลูกเมล่อนทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ เท่าที่จะให้ได้เพื่อสรรค์สร้างและรักษาหนึ่งชีวิตเอาไว้ จึงทำให้ผมมองลึกเข้าไปถึงการได้รับ และเรียนรู้ว่าที่ผ่านมาทั้งชีวิตนั้นผมได้รับมามากเพียงไหน
.
และบางครั้งอาจเพราะชีวิตผมไขว่คว้าหาสิ่งดีๆ มากเกินไป ไขว่คว้าหาความสมบูรณ์แบบดังเช่นผลผลิตของเมล่อน จนหลงลืมไปว่ามีผู้หยิบยื่นสิ่งดีๆ มากมายเข้ามาในชีวิตผมอยู่เสมอ หลงลืมไปว่าเมล่อนที่สมบูรณ์นั้นก็ยังไม่อาจเป็นเมล่อนที่สมบูรณ์แบบได้อย่างแท้จริง
.
สำหรับผมเมล่อนอาจเป็นพืชที่ปลูกยาก มันต้องการสิ่งดีๆ มากมาย หากแต่ชีวิตผม ทั้งที่มีสิ่งดีๆ อยู่แล้ว ก็ปลูกยากไม่ต่างกัน เพราะผมคงคาดหวังสิ่งดีๆ จากใครต่อใครมากเกินไป แต่กลับไม่เคยมอบสิ่งดีๆ เหล่านั้นให้ตนเอง ด้วยการเชื่อว่าชีวิตนั้นแท้จริงดีเพียงไหน บางทีถ้าผมเชื่อเช่นนั้นมาโดยตลอด ชีวิตที่ผ่านมาของผมคงมีความสุขมากกว่านี้ก็ได้