เรียกเธอว่ามหาเศรษฐีตัวจริง ‘เจ.เค.โรว์ลิง’

ถ้าคุณเคยมีชีวิตที่ข้นแค้น สูญเสียแม่ ตกงาน หย่าร้าง ยากจน ต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แล้วจู่ๆ วันหนึ่งชีวิตคุณก็เปลี่ยนแปลงหน้ามือเป็นหลังมือ คุณร่ำรวยขึ้นมาร้อยล้าน คุณกลายเป็นบุคคลที่โด่งดัง เป็นผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก นิตยสารดังจัดอันดับคุณขึ้นติดอันดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของโลก

เมื่อถึงจุดนั้นคุณจะทำยังไงกับเงินมากมายมหาศาลของคุณ?

คุณจะหวงแหนความร่ำรวย รักษาตัวเลขในธนาคารไว้ให้อยู่กับคุณอย่างเหนียวแน่น หรือจะเลือกแบ่งปันทรัพย์สินของคุณให้กับคนที่เดือดร้อนและยากไร้ (ซึ่งนั่นหมายความว่า อาจจะทำให้ฐานะมหาเศรษฐีของคุณสั่นคลอนก็เป็นได้)

‘เจ. เค. โรว์ลิง‘หรือชื่อจริงว่า ‘โจแอนน์ “โจ” โรว์ลิง‘ นักเขียนผู้สร้างตำนานวรรณกรรมเยาวชน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่โด่งดังไปทั่วโลก คือเจ้าของเรื่องราวชีวิตที่พลิกผันราวดังฝันที่เราพูดถึง

ชีวิตของ เจ. เค. โรว์ลิง ก่อนหน้าที่จะโด่งดัง เธอสูญเสียคุณแม่จากโรคร้าย หย่าขาดจากสามี เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่มีอาชีพและรายได้ที่แน่นอน ต้องอาศัยเงินสวัสดิการรัฐเลี้ยงชีพ ชีวิตเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้รู้ว่า ถ้าไม่ท้อ มีความมุ่งมั่น ขยัน จริงจัง และซื่อสัตย์กับงานที่ตัวเองรักมากพอ ความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรือไกลเกินเอื้อม

ความสำเร็จของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง เรียกได้ว่าพุ่งถึงขีดสุด รายได้จากการเขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทั้ง 7 ภาครวมกับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ส่งให้ชื่อของเธอติดอันดับเป็นทั้งคนดังที่ทรงอิทธิพลและเป็นมหาเศรษฐีของโลก

แต่แล้วในปี 2012 นิตยสารฟอร์บส์ก็ออกมาประกาศเปรี้ยงว่า บัดนี้ชื่อของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ไม่ได้อยู่ในทำเนียบมหาเศรษฐีแล้วนะจ๊ะ เหตุผลก็คือ เธอเอาแต่ใช้เงินไปบริจาคทำการกุศลมากมายปีละกว่า 160 ล้านปอนด์ (เธอมักบริจาคให้กับองค์กรการกุศลและมูลนิธิที่ทำงานช่วยเหลือครอบครัวที่ต้องเลี้ยงลูกตัวคนเดียว การช่วยเหลือเด็ก และการวิจัยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคุณแม่ของเธอ) บวกกับโดนภาษีมหาศาลจากรัฐบาลอังกฤษ ทำให้ตัวเลขในบัญชีของเธอลดน้อยลง ส่งผลให้เธอไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีอีกต่อไปแล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวหยิบไมค์ไปจ่อปาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง ถามไถ่เรื่องนี้ คำตอบของเธอที่ตอบกลับมา น่าจะกระแทกใจทำให้มหาเศรษฐีหลายคนอึ้งกิมกี่ไปได้เหมือนกัน เพราะเธอตอบว่า

“มันเป็นเรื่องของสำนึกและความรับผิดชอบด้านคุณธรรมจริยธรรม เมื่อไรที่เรามีมากมายมหาศาลเกินกว่าที่เราต้องการ เราก็ควรใช้มันไปในสิ่งที่ถูกต้องและรู้จักให้อย่่างชาญฉลาด”

คำตอบนี้เรียกเสียงปรบมือเกรียวกราว และแรงศรัทธาจากแฟนคลับของเธอได้อีกหลายกระบุงโกย ส่วนใหญ่ลงความเห็นตรงกันว่าแม้วันนี้ เจ.เค.โรว์ลิง อาจไม่ได้เป็นมหาเศรษฐี แต่สิ่งที่เธอทำนั้นมีคุณค่าและน่ายกย่องสรรเสริญมากกว่าการเป็นมหาเศรษฐีมากนัก เพราะทำให้หลายชีวิตได้มีโอกาสกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หลายเสียงยังเปรยว่า ถ้ามีมหาเศรษฐีมาทำแบบ เจ.เค.โรว์ลิง กันเยอะๆ โลกเราจะดีขึ้นขนาดไหนกัน

เรื่องของ เจ.เค.โรว์ลิง ยังจุดประเด็นให้สังคมต้องเริ่มฉุกคิดและตั้งคำถามว่า ทุกวันนี้เราเดินทางมาถึงจุดที่ยกย่องให้เกียรติผู้คนที่เก็บเงินทองมากมายมหาศาลไว้กับตัว แต่กลับทำเหมือนลงโทษผู้ที่พร้อมจะแบ่งปันสิ่งที่ตนมีให้กับโลกอย่างนั้นหรือ?

ความเป็น ‘มหาเศรษฐี’ วัดกันที่ตัวเลขในบัญชีธนาคารอย่างเดียวเท่านั้นหรือเปล่า…แล้วความดีและน้ำใจที่เราควรแบ่งปันให้กันนั้นเล่า เทียบน้ำหนักแล้วมีค่าต่างกันมากน้อยแค่ไหน?

แท้จริงแล้วพวกเราทุกคนในสังคมกำลัง ‘เดินหน้า‘ หรือ ‘ถอยหลัง‘ กันแน่ ลองคิดดูให้ดี?

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดปลายปี 2016 ฟอร์บส์ก็กลับมาประกาศชื่อ เจ.เค.โรว์ลิ่ง กลับมาติดอันดับมหาเศรษฐีของโลกอีกครั้ง ด้วยรายได้ที่เธอทำได้จากงานเขียนเรื่องใหม่ ละครเวที และสวนสนุกแฮร์รี่ พอตเตอร์

แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ตื่นเต้นหรือดี๊ด๊าอะไรเลย เธอยังคงรักษาความเป็นส่วนตัว ชีวิตที่เรียบง่ายไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และเมื่อผู้สื่อข่าวย้อนกลับไปฟังคำตอบที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในปี 2005 ตอนที่เธอติดอันดับมหาเศรษฐีครั้งแรก เธอก็ตอบถึงความรู้สึกตอนนั้นเพียงสั้นๆ ว่า

“ฉันมีเงินมากมาย มากกว่าที่ฉันเคยฝันเอาไว้ด้วยซ้ำ แต่ฉันไม่ใช่มหาเศรษฐีหรอกค่ะ”

เจ.เค.โรว์ลิง เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เราได้เห็นว่า ตำแหน่งและตัวเลขเงินทองที่หมุนเวียนเข้าออกขึ้นลงในชีวิต ไม่ได้ส่งผลเปลี่ยนแปลงเนื้อแท้ในจิตใจของเธอแต่อย่างใด เธอยังคงเดินหน้าแบ่งปันและช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนและยากไร้เท่าที่เธอมีโอกาสและทำได้ เบื้องหลังงานแทบทุกช้ินของเธอจะแบ่งปันรายได้ไปสู่การกุศลอย่างสม่ำเสมอ

และนี่ทำให้เราอาจเรียก เจ.เค.โรว์ลิง ได้ว่าเป็น ‘มหาเศรษฐี‘ ผู้ร่ำรวยน้ำใจตัวจริง ที่สถาบันไหนๆ ก็ปลดเธอออกจากตำแหน่งไม่ได้…

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thinkinghumanity.com/2016/09/jk-rowling-loses-billionaire-status-on-forbes-list-for-being-too-charitable.html

ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต