น้ำใจ Delivery

ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจบริการยุคนี้ หัวใจสำคัญอยู่ที่ ‘ความรวดเร็ว’ เรียกว่าใครอยากพิชิตใจลูกค้า ต้องแทบจะส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าได้ภายในหลักวินาที หากช้าเมื่อไรโอกาสที่ลูกค้าจะเกิดอาการ ‘เธอปันใจ’ เป็นไปได้มากเหลือเกิน

ดังนั้น เมื่อมีกระดาษชิ้นเล็กๆ เขียนข้อความถึงพนักงานส่งอาหารคนหนึ่งทำนองว่า ‘ไม่ต้องรีบร้อนมาส่งอาหารมากนัก แต่ให้คิดถึงความปลอดภัยของตัวเองให้มากๆ’ ข้อความนั้นจึงถูกกระหน่ำแชร์ในโลกโซเชียลอย่างถล่มทลาย

เรื่องราวดีต่อใจนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน ประเทศที่ปัจจุบันธุรกิจอีคอมเมิร์ซกำลังเบ่งบาน การสั่งอาหารทางอินเตอร์เน็ตกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของชาวจีนยุคใหม่ ทำให้ร้านอาหารแต่ละแห่ง ต้องแข่งขันกันที่ระบบ Delivery ที่รวดเร็วทันใจ ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไรก็ตาม พนักงานส่งอาหารทุกคนจะต้องรีบเร่งส่งอาหารให้ถึงมือลูกค้าในเวลาที่น้อยที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว อาจได้รับโชค(ร้าย)สองชั้น คือทั้งถูกต่อว่าจากลูกค้าและการประเมินผลอย่างเข้มงวดจากเจ้าของร้าน

ดังนั้น ในคืนเหน็บหนาวที่หิมะปกคลุมไปทั่วเมือง จึงนับเป็นคืนหฤโหดของพนักงานส่งอาหาร แทบทุกคนหมดแรงและเหนื่อยล้าจากการต้องปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางสภาพอากาศอันเลวร้าย

แต่แล้วกระดาษใบเสร็จรับเงินใบเล็กๆ ใบหนึ่ง ที่ปรากฎข้อความสั้นๆ ง่ายๆ ไม่กี่ประโยคในช่องหมายเหตุ

กลับสร้างความอบอุ่นในหัวใจให้กับพนักงานส่งอาหารชาวจีนทั้งประเทศ

“พี่พนักงานส่งอาหาร หนูไม่รีบที่จะทานอาหารค่ะ ตอนมาส่งขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ หากส่งล่าช้าเกินเวลาที่กำหนดไว้ ก็ให้กดว่าส่งถึงก่อนเวลาได้เลย หรือจะโทรติดต่อกับหนูก็ได้ เหนื่อยหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ“

ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นพนักงานส่งอาหาร ที่วันนี้ต้องตระเวนขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนลื่นๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นเฉอะแฉะติดลบมาตลอดทั้งวัน แล้วจู่ๆ มาเจอข้อความแบบนี้เข้า เชื่อว่าเป็นใครก็ต้องมีน้ำตาซึมกันบ้างแหละ

ความจริงถ้าเรื่องจบลงตรงนี้ก็ซาบซึ้งดีงามที่สุดแล้ว แต่เรื่องนี้กลับยังมีแง่มุมที่น่ารักไปกว่านั้น เมื่อภาพถ่ายข้อความบนใบเสร็จรับเงินใบนี้ ได้ถูกแชร์ต่อไปอย่างล้นหลามในโลกออนไลน์ บรรดาผู้คนที่ได้อ่าน ต่างเข้ามาเขียนคอมเมนต์บอกเล่าประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อชื่นชมและกล่าวคำขอบคุณต่อพนักงานส่งอาหารเหล่านี้กันอย่างมากมาย ตัวอย่างเช่น

“ครั้งหนึ่ง ฉันต้องไปให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลเพียงลำพัง รู้สึกหิว จึงสั่งอาหารมาส่ง พอพี่พนักงานมาถึง เห็นฉันให้น้ำเกลืออยู่ ก็ช่วยเปิดถุงและเปิดกล่องอาหารให้ แถมยังเอาตะเกียบใส่ให้มือฉันด้วย โดยที่ฉันไม่ได้เอ่ยปากขอร้องก่อนด้วยซ้ำ ฉันยังไม่ทันจะได้กล่าวขอบคุณ เขาก็รีบออกไปเสียก่อนแล้ว น่าประทับใจจริงๆ”

“ช่วงนั้นตั้งท้องแล้วพอดีอยู่บ้านคนเดียว เลยสั่งอาหารให้มาส่ง แต่สั่งเสร็จแล้วเกิดฝนตก ฉันจึงโทรไปยังร้านเพื่อขอยกเลิกรายการ แต่ปรากฏว่ายกเลิกไม่ทันแล้ว ฉันจึงเตรียมขนมไว้เพื่อที่จะขอบคุณพนักงานส่ง พอมาถึงเขาเปียกไปหมดทั้งตัว แต่กลับบอกกับฉันว่า อาหารไม่โดนฝนนะ วางใจได้ครับ”

“วันนั้นอากาศหนาว และมีมลภาวะรุนแรง ฉันจึงสั่งอาหารมากิน ปรากฏว่าคนส่งเป็นคุณลุงคนหนึ่ง เขาถือถุงใส่อาหารไว้อย่างระมัดระวังเพราะเกรงว่าอาหารจะเย็นหมด ก่อนจะยิ้มและกล่าวกับฉันว่า ขอโทษที่ช้าไปหน่อยนะ ฉันจึงรีบตอบไปว่าไม่เป็นไรค่ะ”

“มีครั้งหนึ่ง คนส่งอาหารมาส่งถึงประตูเขตชุมชนที่พักของผมแล้วแต่เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน เขาเลยโทรมาบอกว่า อาหารหก เดี๋ยวจะช่วยซื้อใหม่ให้เพื่อเป็นการชดเชย ผมถามเขาว่าบาดเจ็บหรือเปล่า แต่เขาไม่บอกผมจึงลงไปตามหา พบว่า เขาแทบจะยืนขึ้นไม่ไหว และยืนยันว่าจะชดเชยค่าอาหารที่เสียหายให้ผมอีกด้วย”

“วันนั้น ฉันบังเอิญเจอภาพที่พนักงานส่งอาหารกำลังคุยกับลูกของตัวเองว่า ‘ลูกรออีกหน่อยนะ เดี๋ยวพ่อก็เลิกงานแล้ว’ ฟังแล้วอยากจะร้องไห้จริงๆ”

เหตุการณ์น่ารักบนโลกออนไลน์ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา คำขอบคุณและข้อความประทับใจที่ลูกค้ามอบให้กับพนักงานส่งอาหาร จึงเปรียบเสมือนของขวัญปีใหม่ที่เยี่ยมยอดและทำให้พวกเขาอบอุ่นหัวใจไปแสนนาน

ตอนนี้เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนที่เขาว่ากันว่าเป็น ‘เดือนแห่งความรัก‘ เราเลยอยากชวนทุกคนมาลองส่งความรัก คำขอบคุณ หรือความปรารถนาดีให้กับพนักงานหรือใครก็ได้ ที่เรารู้สึกประทับใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของเขากันบ้างดีไหม?อาจจะเป็นพนักงานส่งอาหาร Delivery เหมือนในเรื่องนี้ พี่ตำรวจจราจร คุณป้าแม่บ้านที่ออฟฟิศ แม่ค้าขายน้ำเต้าหู้หน้าโรงเรียนลูก ลุงยามที่คอนโด ฯลฯ

เชื่อว่าคำขอบคุณที่มาจากความรักและน้ำใจที่มอบให้กันแบบไม่มีเงื่อนไข จะทำให้พวกเขาหัวใจเต้นแรง และมีความสุขยิ่งกว่าได้ดอกกุหลาบดอกไหนๆ หรือช็อคโกแลตชิ้นใดๆ ในวันวาเลนไทน์แน่นอน

จะเริ่มต้นจาก Comment ใต้โพสต์นี้เลยก็ได้ เอ้า..1….2….3…เริ่มได้เลย 🙂

ขอบคุณข้อมูลจาก FB : China Xinhua News