เวลา…เป็นเงินเป็นทอง
การคิดถึงเวลาส่งผลต่อนิสัยการออม
นักวิจัยพบว่ายิ่งเรามองไปในอนาคตชัดเจนมากเท่าไร
ก็จะยิ่งส่งผลให้เราออมเงินมากขึ้นเท่านั้น
มีคนอยู่สองพวกที่มีปัญหาเรื่องการใช้เงิน พวกแรกคือพวกที่หาเงินเท่าไรก็ไม่พอ พวกเขายังคอยกังวลเสมอจนไม่สามารถมีความสุขกับเงินทองที่มีอยู่ อีกพวกก็ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายจนไส้แห้ง ทั้งสองแบบเป็นตัวอย่างที่ดีว่าการมี “สุขภาพทางเรื่องเงินที่ดี” ไม่ได้ขึ้นกับจำนวนตัวเลขในบัญชีแต่อย่างใด
เก็บเงินไม่ค่อยได้ เป็นเพราะอะไร?
นักวิจัยศึกษาสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดทำให้บุคคลสะสมเงินทองได้ นั่นคือ “เวลาทางใจ” (mental time)
ในการสำรวจชาวอเมริกัน พบว่าสิ่งที่มีผลต่อการเก็บเงินออมหลักๆ คือ รายได้ ส่วนปัจจัยอื่น ๆ เช่น เพศ อายุ การศึกษา หรือ ถิ่นที่อยู่ไม่มีผลต่อเงินออม แต่ปัจจัยที่มีผลอย่างมากคือ เวลาทางใจ
อะไรคือเวลาทางใจ?
ลองถามตัวเองดูว่า ปกติคุณคิดไปไกลแค่ไหนในการวางแผนชีวิต ไม่คิดอะไร ทำงานไปวัน ๆ หรือคิดวางแผนชีวิตล่วงหน้าแค่สองสามสัปดาห์….เป็นเดือน….หรือเป็นปี
นักวิจัยพบว่าคนที่มีนิสัยคิดไปในอนาคตไกลๆ จะเก็บเงินออมมากกว่า ทั้งเงินออมก่อนเกษียณและหลังเกษียณ ที่น่าสนใจคือแม้คนที่มีรายได้น้อยแต่หากเขาคิดหรือเห็นภาพในอนาคตก็จะทำให้เก็บเงินในอัตรามากกว่าคนที่มีรายได้มากกว่าแต่ไม่สามารถมองไปไกลๆ ในอนาคตได้
การมีความสามารถในการมองไปในอนาคตจะช่วยลดการใช้เงินอย่างไม่ระมัดระวังได้ หากคุณคิดหรือมองชีวิตตนเองน้อยกว่า 5 ปีไปในอนาคต คุณเสี่ยงต่อการเป็นหนี้ เงินออมต่ำ และ การใช้เงินโดยไม่ยั้งคิด
ข่าวดีคือ ยังมีความหวัง
การตัดสินใจในชีวิตประจำวันของคุณจะขึ้นอยู่กับหน่วยของ “เวลาทางใจ” ที่คุณมองเห็นได้
หากคุณช่วยตัวเองให้มองเห็นอนาคตได้ดีขึ้น มันจะส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินในวันนี้ มีข้อแนะนำหลายวิธี เช่น
มองภาพของคุณที่อายุมากขึ้น ๆ (ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์แต่ง) นักวิจัยพบว่าเมื่อบุคคลรู้สึกใกล้ชิดกับ “ตัวเองในอนาคต” แล้วเขาจะสามารถออมเงินดีขึ้น แต่บางคนไม่อยากจะเห็นภาพตัวเองตอนแก่ ก็อาจใช้การฝึกจินตนาการ หรือ เขียนบทความให้ละเอียดกว่าชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไรเมื่อคุณมีอิสระทางการเงิน หรือ ชีวิตหลังเกษียณจะเป็นอย่างไร เช่น อาศัยอยู่ที่ไหน อยู่กับใครบ้าง และใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องจินตนาการให้ละเอียดลออที่สุด
การคิดไปในอนาคต อย่างกระจ่าง รายละเอียด เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้
การคิดไปข้างหน้าเป็นนิสัยฝึกได้ แต่อาจต้องใช้เวลาฝึก หากปกติคุณคิดไปข้างหน้าแค่ 6 เดือน ลองคิดไปข้างหน้าสัก 1 ปี หรือหากคิดไปข้างหน้า 1 – 2 ปี ลองหัดวางแผนล่วงหน้า 3 ปี การเปลี่ยนแปลการมองเวลาทางใจนี้ จะช่วยในการตัดสินใจเรื่องการใช้เงินในชีวิตประจำวันของคุณ
เรียบเรียงจาก http://bit.ly/2jQfZlw