เส้นทางความสุข : การศึกษาเรียนรู้
ยังจำความรู้สึกเมื่อคุณหัดผูกเชือกรองเท้าสำเร็จครั้งแรกในชีวิตได้ไหม? ความรู้สึกเมื่อคุณลอยตัวในน้ำได้ครั้งแรก? หรือแม้แต่ความรู้สึกแรกที่เท้าทั้งสองพาคุณล่องละลิ่วไปบนรถจักรยานสองล้อโดยไม่ล้มได้หรือเปล่า?
ความรู้สึกในวันนั้น….มันเหมือนเราได้พิชิตยอดเขาสูงที่สุดในโลก คล้ายๆ โลกทั้งใบอยู่ในกำมือของเรา ภาคภูมิใจประหนึ่งนักกีฬาวิ่ง 100 เมตรที่พุ่งตัวเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ได้ยินแต่เสียงคนโห่ร้องปรบมือชื่นชม ความสุข ณ ขณะนั้นมันช่างล้นปรี่จนเราแทบกลั้นไม่อยู่
มันคือความสุขง่ายๆ ในช่วงวัยเด็กที่หลายคนโหยหา และแอบเสียใจลึกๆ ว่าเมื่อชีวิตล่วงเลยมาในวัยผู้ใหญ่ จะไม่มีโอกาสกลับไปมีความสุขแบบนั้นได้อีกแล้ว
แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปไป แน่นอนว่าในความเป็นจริงเราไม่อาจย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้ แต่ความสุขแบบนั้นอาจย้อนกลับมาให้เราสัมผัสได้อีกครั้ง เพียงแค่เราต้องลองเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ความรู้สึกสุขล้นปรี่มันจะเกิดขึ้นอีกครั้งในชั่วขณะที่เราได้ลงมือลงแรง พากเพียรก้าวผ่านอุปสรรคในการทำอะไรบางอย่างที่เราไม่เคยทำจนสำเร็จ ความสุขแบบนี้คือ ‘ความสุขจากการศึกษาเรียนรู้’ ซึ่งเป็น 1 ในเส้นทางการพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาอันเป็นความสุขที่แท้จริงของชีวิต
อ.ประภาภัทร นิยม อธิการบดีสถาบันอาศรมศิลป์ ได้เคยกล่าวไว้ว่า ความสุขของคนเรานั้นมี 2 แบบคือ ความสุขขาเข้าหรือความสุขจากการเสพ เป็นความสุขที่รับมาง่ายๆ ไม่ต้องใช้ความพยายาม เช่น การกินของอร่อย ได้กลิ่นหอม ฟังเพลงเพราะ และแบบที่ 2 คือ ความสุขแบบขาออก เป็นเรื่องตรงกันข้าม ความสุขแบบนี้เกิดจากการให้ออกไป ไม่ว่าจะเป็นการให้คนอื่น เช่น ให้โอกาส ให้อภัย หรือแม้กระทั่งการนำสิ่งที่ตัวเรามีอยู่ออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เช่น การใช้ความพยายาม ‘เรียนรู้’ ที่จะทำอะไรสักอย่างจนประสบความสำเร็จ ซึ่งความสุขแบบที่ 2 นี้ จะให้ความอิ่มอกอิ่มใจ ภาคภูมิใจ สงบ ร่มเย็นและยั่งยืนกว่าแบบแรกมากนัก
“ธรรมชาติของมนุษย์มีความสุขอยู่แล้วที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ เป็นความสุขที่หล่อเลี้ยงเราอยู่ลึกๆ ทำให้เรามีจิตใจเข้มแข็งและมั่นคงขึ้น สามารถอดทนกับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น เมื่ออดทนกับความยากลำบาก เราจะไม่ทุกข์ง่าย ซึ่งต่างจากความสุขแบบหวือหวา ที่ไม่ได้เข้าไปหล่อหลอมคุณภาพทางใจของเรา”
เพราะการเรียนรู้ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในรั้วสถานศึกษาเท่านั้น เราสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ได้ตลอดชีวิต เช่น เรียนทำอาหาร จัดดอกไม้ วาดรูป เล่นดนตรี ปลูกผัก ขับรถ ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งการทำงานจิตอาสา ที่กลายเป็นพื้นที่มหัศจรรย์ให้ใครหลายคนได้เข้าไปเรียนรู้ ฝึกฝน ทดลองทักษะใหม่ๆ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตได้เลยก็มี
การเรียนรู้ยังเป็นความสุขที่เราสามารถเริ่มต้นได้โดยไม่มีข้อจำกัดของเวลาหรืออายุ ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณปู่คุณย่าที่ทุ่มเทเรียนหนังสือหลังเกษียณจนคว้าด็อกเตอร์ หรือคุณยายชาวญี่ปุ่นที่ฝึกว่ายน้ำในวัย 80 จนสามารถทำลายสถิติโลกตอนอายุ 100 ปีพอดิบพอดี
สิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่เรากำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ ช่วงที่เรากำลังจดจ่อกับการฝึกฝน มันคือช่วงเวลาของความสุข ยิ่งเมื่อได้แจ่มแจ้งในความรู้ จะยิ่งเพิ่มพูนความพึงพอใจ แม้ว่าในระยะแรกมันอาจหมายถึงการต้องผ่านช่วงเวลาของความเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ ที่คอยเป็นตัวสกัดดาวรุ่งเราอยู่เนืองๆ
ความเคยชินกับความสะดวกสบาย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามักมองข้ามความสุขจากการศึกษาเรียนรู้ไป วิถีชีวิตปัจจุบันทำให้เราไม่คุ้นเคยนักกับการต้องใช้เวลาไปกับความอดทน พากเพียรเพื่อเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา ทุกวันนี้เราพยายามหาทางลัดเพื่อให้ทุกอย่างรวดเร็ว ง่ายดาย เรามีหนังสือคู่มือ How to ที่สอนเส้นทางลัดไปสู่ความสำเร็จเยอะแยะมากมาย จนบางครั้งทำให้เราลืมคิดไปว่า ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะรวดเร็วและง่ายดายขนาดนั้น โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องของ ‘ชีวิต’
เราพบเสมอว่า เมื่อชีวิตต้องเผชิญหน้ากับปัญหาและความทุกข์ ร้อยทั้งร้อยไม่เคยมีทางลัดให้ก้าวผ่าน บทเรียนชีวิตแต่ละครั้งไม่เคยง่าย เราอาจต้องเสียทั้งเหงื่อและน้ำตาเป็นหลายปี๊บกว่าจะฝ่าฟันมันไปได้ ที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือ หลายชีวิตผ่านมันไปไม่ได้ และยกธงขาวยอมแพ้มันเสียตั้งแต่กลางทาง
แต่ถ้าเราเพียงลองมองชีวิตในมุมมองใหม่ฝึกมองทุกเรื่องให้เป็นบทเรียนที่จะได้เรียนรู้และเติบโต ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ ทุกอย่างล้วนมีคุณค่า บทเรียนชีวิตแต่ละเรื่องอาจต้องใช้ความอดทน พากเพียร อุตสาหะไม่เท่ากัน เมื่อสำเร็จก็เรียนรู้ที่จะชื่นชม หากล้มเหลวก็เรียนรู้ที่จะให้อภัย ปล่อยวางและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ถ้าทำได้ พวกเราทุกคนก็จะกลายเป็น ‘นักเรียนรู้ชีวิต’ และยิ่งเมื่อเราเข้าใจความหมายของ ‘ความสุขจากการเรียนรู้’ เราก็ย่อมสัมผัสความหอมหวานของความสุขที่เกิดจากสุขภาวะทางปัญญาแบบนี้ได้ในทุกนาทีของชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องรอคอยความสุขแบบเร็วแต่ฉาบฉวย อย่างรถคันใหม่ บ้านหลังใหญ่ หรือโบนัสงามๆ ที่ใช้เวลานานกว่าจะคว้ามาได้สักครั้งอีกต่อไป
และนี่คือทาง(ไม่)ลัดทางเดียวที่จะทำให้เราย้อนเวลากลับไปหาความสุขแบบใสๆ ในวัยเด็กที่เราถวิลหาได้อีกครั้ง รู้เคล็ดลับแล้วอย่ารอช้า ถ้าพร้อมแล้ว….ลงมือปฏิบัติ !
ขอบคุณภาพ : pixabay.com