‘โคริงกะ’ ดอกไม้จัดใจ (ตอนที่ 2)
คำว่า ‘โคริงกะ‘ เป็นภาษาญี่ปุ่น มีความหมายว่า ‘ดอกไม้แห่งแสงสว่างที่กระจายออกไปเพื่อช่วยเหลือคนอื่น‘ซึ่งการที่ดอกไม้สามารถไปช่วยเหลือผู้คนได้นั้น ก็เป็นเพราะว่าผู้ที่เรียนรู้การจัดดอกไม้โคริงกะนั้น อาจสามารถ ‘เปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตได้….ด้วยการจัดดอกไม้เพียงแจกันเดียว‘
ด้วยหลักการของการจัดดอกไม้โคริงกะ ที่ฝึกให้ผู้จัดดอกไม้นิ่ง กลับมาอยู่กับตัวเองและปัจจุบัน ทำให้คลื่นสมองของผู้จัดเกิดความสงบ คล้ายกับการนั่งสมาธิ จึงมีผู้นำการจัดดอกไม้ไปใช้กับเด็กกลุ่มพิเศษ เด็กออทิสติก ผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ ฯลฯ
กระบวนการหลักของการจัดดอกไม้คือการทิ้งความคิด ใช้ความรู้สึก จึงทำให้สมองซีกขวาของเรา ที่เต็มไปด้วยความเบิกบาน สร้างสรรค์ ได้รับการกระตุ้นให้ฟื้นคืนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง จึงทำให้มีคนนำการจัดดอกไม้ไปบำบัดผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ฯลฯ
และสำคัญที่สุดคือการเลือกและจัดดอกไม้ที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่ใช้การเปิดความรู้สึกจากภายในด้วยสิ่งที่เรียกว่า ‘จิตนำกาย‘จึงมีผู้นำกระบวนการนี้ไปใช้ในการฝึกสุขภาวะทางปัญญา ให้รู้จักมองชีวิตและทุกสิ่งรอบตัวตามความเป็นจริง
อ.ดวง – ดวงพร วงษ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการกองวิชาการและการพัฒนานักศึกษา ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี เป็น 1 ในผู้ที่ได้มีโอกาสเห็นกระบวนการจัดดอกไม้โคริงกะแล้วจับอกจับใจ จนคิดนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาจิตตปัญญาให้กับเด็กนักศึกษาใหม่ของทางมหาวิทยาลัยทุกคน
“เริ่มตั้งแต่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ด้วยความที่มหาวิทยาลัยอยู่ภาคใต้ สถานการณ์ความรุนแรงมีประเด็นความขัดแย้งทางศาสนา ส่งผลต่อทัศนคติของเด็ก การจัดกิจกรรมด้านจิตวิญญาณหรือสุขภาวะทางปัญญาที่ผ่านมาต้องแยกเด็กเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม เราก็เลยมีโจทย์กันว่า เราอยากหากิจกรรมที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าพหุวัฒนธรรม คือทำยังไงให้เราอยู่ร่วมกันด้วยความแตกต่างแต่ไม่แตกแยก
ก็เลยมาคลิกว่าดอกไม้นี่แหละที่น่าจะเป็นสื่อกลาง เพราะไม่มีเรื่องของศาสนา แล้วกระบวนการของมันยังช่วยส่งเสริมเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม คือการรู้จักตนเอง เข้าใจผู้อื่น และอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข” อ.ดวงเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้น
แค่ดอกไม้แจกันแรกที่นักศึกษาได้จัด ก็ทำให้ อ.ดวง มองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างดอกไม้กับจิตใจของเด็ก นักศึกษาหลายคนสะท้อนว่าระหว่างสงบนิ่งมองดอกไม้ทำให้เขานึกถึงแม่ รู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมา บางคนย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวสมัยเด็ก เชื่อมโยงดอกไม้กับชีวิตที่ผ่านมา ภาพที่เห็นคือความงดงาม เพราะนักศึกษาทุกศาสนาสามารถเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข แลกเปลี่ยนความรู้สึกระหว่างกันได้โดยไม่มีความแตกต่างใดๆ มาขวางกั้น
เห็นแบบนี้ อ.ดวง จึงเริ่มหันมาเรียนจัดดอกไม้โคริงกะด้วยตนเอง เพราะอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยถ่ายทอดความรู้ ขยายวงความสุขให้คนอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยได้มีความสุขเพิ่มมากขึ้น ผลที่ได้ตามมาอย่างไม่คาดคิดคือความเปลี่ยนแปลงในตัวเองเกือบทุกด้าน
“หลังเรียนจัดดอกไม้เห็นความเปลี่ยนแปลงตัวเองชัดๆ อันดับแรกคือเรื่องทัศนะ คำพูดคำจา แต่ก่อนเราปากร้าย ทำงานเป๊ะ มีไม้บรรทัดของตนเองไปวัดคนอื่นตลอดเวลา ใครตำหนินี่เราจะตบโต๊ะแล้วสวนกลับเลย ให้คนที่ว่าเราต้องเจ็บยิ่งกว่า” อ.ดวงเล่าถึงตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“แต่ตอนนี้เราสามารถเข้าใจคนอื่นได้มากขึ้น นิ่งขึ้น จัดการอารมณ์ของตัวเราได้ดีขึ้น ใครมาว่าเรา ก็มีสติที่จะโต้ตอบด้วยคำพูดที่สุภาพ อ่อนโยน สิ่งที่ตามมาคือรู้สึกตัวเองมีความสุขง่ายขึ้น ไม่ต้องไปแสวงหาอะไรที่ใหญ่โตอลังการเหมือนแต่ก่อน เราจะเริ่มรู้สึกว่าการหาความสุขไม่ใช่แค่เพื่อตัวเรา แต่เพื่อคนอื่นด้วย มันเกิดขึ้นเมื่อไรได้ยังไงไม่รู้นะ ทุกอย่างเป็นไปอัตโนมัติตามธรรมชาติเลย”
บางครั้งการใช้ชีิวิตก็เหมือนการเลือกดอกไม้มาจัดในแจกัน หากเราลองปิดความคิดที่ใช้ตัดสิน เชื่อความรู้สึกจากลึกๆ ภายในจิตใจของเราเอง เปิดใจของเราได้ลองเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่อาจไม่ใช่แค่การสร้างปัญญาภายนอกอย่างที่แล้วๆ มา แต่เป็นการเรียนรู้สิ่งดีงามที่จะช่วยให้เราเติบโตและงอกงามจากภายใน นั่นอาจเป็นหนทางที่จะพาเราไปสู่ความสุขที่ยั่งยืนที่เราตามหากันมาทั้งชีวิตก็เป็นได้
ปัจจุบันหลักสูตรการจัดดอกไม้โคริงกะ มีเปิดสอนหลายระดับหลายหลักสูตร โดยมูลนิธิ เอ็มโอเอ ไทย ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเพจ moathailand หรือติดต่อ 0-2975-9982, 089-8141288 , Email : thmoa@truemail.co.th
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : มูลนิธิ เอ็มโอเอ ไทย