ใช้ใจแทนเงิน – Gift Economy
เมื่อปี 2012 Brice Royer นอนซมอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก…และเขาคิดจะฆ่าตัวตาย ทุกวันนี้ความเจ็บปวดนั้นยังอยู่ มะเร็งในกระเพาะอาหารของเขาก็ไม่ได้เล็กลง แต่เขาไม่เคยมีความสุขมากเท่านี้มาก่อน เมื่อปีที่ผ่านมา เขาตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ คือ “ให้และรับโดยไม่ใช้เงิน” เพื่อที่จะสร้างชุมชนที่ไม่พึ่งพาเงินตราเพื่อการแลกเปลี่ยน
อยู่กับความเจ็บปวดครั้งละ 1 นาที
ย้อนกลับไปที่ปี 2012 หมอวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร และเมื่อความเจ็บปวดมีมากขึ้น ๆ เขาพบว่ามันช่างยากที่จะตื่นขึ้นมาในแต่ละวัน
เช้าวันหนึ่ง เขาบอกตัวเองว่า เขาไม่อยากตื่นขึ้นมาอีก และ เขาวางแผนที่จะฆ่าตัวตาย โดยเขาวางแผนจะเดินทางไปยังประเทศที่สามารถทำ “การุณยฆาต” ได้อย่างถูกกฎหมาย แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เขาจึงบอกกับตัวเองว่า
“เอาล่ะผมจะมีชีวิตอยู่ต่ออีก 1 นาที ผมมองนาฬิกาและจับเวลา ในช่วงหนึ่งนาทีนั้น ผมนั่งนิ่งๆ… หายใจและรับรู้ยอมรับความเจ็บปวดที่มี หลังจากอีก 1 นาทีผ่านไป ผมมองดูนาฬิกาและบอกกับตัวเองว่า ผมมีชีวิตรอดอยู่ได้ 2 นาทีแล้ว”
เขาทำเช่นนี้ จนได้ 5 นาที 10 นาที และหลังจาก 1 ชั่วโมงผ่านไป เขาตัดสินในที่จะมีชีวิตอยู่ทั้งวัน
ทำอย่างไรถึงจะมีสุขภาพดีและมีความสุข
เพราะคาดว่าว่าตัวเองคงตายในไม่ช้า เขาตัดสินใจเดินทางไปพักผ่อน เขาและคู่หมั้นเดินทางไปพักอยู่ที่แวนคูเวอร์ 1 เดือน ระหว่างนั้นเขาใช้เวลาค้นคว้าและครุ่นคิดถึงสาเหตุของการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นสารพิษในสิ่งแวดล้อม ความเหงา หรือ ความเครียด และเขาพบว่า
รากเหง้าของปัญหา คือ การขาดความรักในสังคม
ปัญหาที่เรามีทุกวันนี้ ตั้งแต่ปัญหาที่อยู่อาศัย ของแพง ทำงานที่เครียดเพื่ออยู่รอดไปวัน ๆ จนไม่มีเวลาให้กับเพื่อนบ้านและชุมชน ทั้งหลายนี้ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ และกรณีของเขา มันคือมะเร็ง
Brice ค้นคว้าเพื่อจะหาว่า คนที่มีสุขภาพดีที่สุดในโลกอาศัยที่ไหนและพวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร และพบว่าคนที่มีสุขภาพดีมีอยู่ในหลายที่ เช่น ที่โอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น หรือ ที่ Ikaria ประเทศกรีซ
สิ่งที่คนเหล่านี้มีเหมือนๆ กัน คือ พวกเขาใส่ใจดูแลกันและกัน พวกเขามีครอบครัวใหญ่ (ญาติอยู่รวมกัน) และอาศัยอยู่ในชุมชนเล็กๆ และพวกเขามีสิ่งที่เรียกว่า gift economy พวกเขาแบ่งปันให้กัน…ให้และรับอย่างไม่มีเงื่อนไขว่าจะต้องได้อะไรตอบแทน ซึ่งเป็นระบบที่แยกตัวออกจากระบบการค้าขายแลกเปลี่ยนตามปกติ นอกจากนั้นคนในชุมชนยังผลิตข้าวของด้วยตนเอง และเขาอยากทำเช่นนั้นในแวนคูเวอร์ เขาบอกเรื่องนี้กับเพื่อนและตั้งกลุ่มใน facebook
ช่วยเหลือคนแปลกหน้าโดยไม่หวังอะไร
Brice บอกว่ามันเป็นเรื่องยากเพราะเขาต้องลดความหยิ่งและถ่อมตนเพื่อเอ่ยปากขอในสิ่งที่เขาต้องการ…ผมไม่อยากเป็นหนี้ใคร จริงๆ แล้วการใช้เงินซื้อเอาง่ายกว่า ผมต้องเอ่ยปากขอสิ่งที่ผมต้องการ แม้ว่าผมจะซื้อมันได้ก็ตาม แต่การซื้อขายคือปัญหา เพราะมันทำให้ตัวผมแยกออกจากคนอื่นๆ (การใช้เงินลดการพึ่งพากันด้วยน้ำใจ)
สิ่งที่ยากสำหรับเขาที่จะอยู่โดยไม่ใช้เงิน คือ การหาที่พักฟรีๆ (ตอนนี้เขาอยู่กับครอบครัวของคู่หมั้น) แต่เขาก็ยึดมั่นในปรัชญาชีวิตของเขา อาทิ เขาเสนอที่จะจ่ายค่าเช่าให้แก่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ป่วยเรื้อรังในเพนซิลวาเนีย แม้เขาไม่เคยพบผู้หญิงคนนี้มาก่อน แต่เขาจ่ายเงิน 4800 เหรียญให้เธอ
เขาช่วยคนแปลกหน้าอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกและมีลูกชายที่เป็นออทิสติก โดยจ่ายค่าทันตแพทย์ให้เธอเอาปรอทที่อุดฟันออกเพราะมันทำให้เธอป่วย
เขาบอกว่า “ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรต่อจากนั้น ความเมตตานี้มันจะส่งผมไปยังคนอื่น ๆ ต่อไปหรือไม่ แต่ผมรู้ว่ามีผลดีย้อนกลับมาหาผม หลังจากเริ่มมอบความรักให้แก่คนแปลกหน้าอย่างไม่มีเงื่อนไข ของขวัญต่าง ๆ ก็กลับมาที่ผม อย่างที่คาดไม่ถึง“
และของขวัญอย่างหนึ่งที่เขาได้ก็คือแครอท อาหารอย่างเดียวที่เขากินมากเท่าไรก็ได้โดยไม่ป่วย Jas Singh ชาวสวนที่ปลูกแครอทสำหรับคนยากไร้ เสนอแครอทให้ Brice มากเท่าที่เขาต้องการ โดยที่ทั้งคู่ไม่เคยพบกันมาก่อน Jas บอกว่าเขารู้สึกถึงความผูกพันกับ Brice อย่างทันทีเหมือนกับเป็นญาติกัน
Jas บอกว่า “เขามีพลังงานบางอย่างที่ดึงดูดผู้คน“
และหลังจากที่เขาโพสเรื่องของเขาใน Craigslist คนจากทุกมุมโลกให้กำลังใจเขาด้วยการถ่ายรูปกับแครอท และใช้ hastag #EatCarrotsForBrice
Jas Singh ยังได้แรงบนดาลใจที่จะทำสวนโดยใช้ชื่อของ Brice สวนนี้จะมีไว้เพื่อปลูกผักสำหรับผู้ป่วย
ชุมชนแห่งความรัก
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ Brice ได้จาการทำเช่นนี้ คือ ชุมชนที่ให้ความรักและกำลังใจจากเขา มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะทำงานบ้านหรือทำธุระต่าง ๆ ด้วยตนเองหรือไปโรงพยาบาล แต่ตอนนี้เขาแค่เขียนขอความช่วยเหลือใน facebook และก็มีคนมาช่วยเหลือเขา
หนึ่งในนั้นคือ Maria Avendano เธออ่านเรื่องของเขาและรู้สึกประทับใจมาก
เธอบอกว่า “ฉันคิดว่าเขาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในชีวิตของคนจำนวนมาก ทำให้คนใคร่ครวญถึงการรักและมีน้ำใจต่อคนรอบข้าง“
เธอพบ Brice เมื่อเธอไปที่บ้านของเขาเพื่อช่วยปอกแครอท
“ฉันได้พบกับประสบการณ์บางอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน นั่นคือ พลังเยียวยาของการโอบกอด มันเต็มไปด้วยความรักและพลัง และฉันรู้สึกเหมือนเป็นอีกคนเมื่อฉันก้าวออกจากบ้านหลังนั้น“
เธอพูดพร้อมปาดน้ำตา
Pan คู่หมั้นของเขาซึ่งได้คบหากันมา 5 ปี บอกว่าเธอทึ่งกับการที่ Brice สามารถดูแลและให้ความรักแก่คนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ผู้คนบอกว่า Brice โชคดีที่มีเธอคอยดูแล แต่ Pan บอกว่า จริง ๆ แล้วมันกลับกัน ในปีแรก Brice คอยรับฟังปัญหาของเธอและช่วยเหลือเธอตลอด
“ฉันไม่เคยเห็นเขาบ่นว่า ทำไมต้องเป็นฉัน เขาจะมีพลังทางบวกเสมอ“
Pan เล่าให้ฟังขณะที่กินซุปแครอทที่ร้านอาหารที่ชื่อ Lotus Garden นี่เป็นร้านอาหารร้านเดียวที่มีอาหารที่ Brice กินได้ แม้ในวันที่ปกติร้านจะปิด เจ้าของก็เปิดร้านให้ Brice และเพื่อน ๆ ของเขาและไม่คิดค่าอาหารแต่อย่างใด
ที่มา :
http://www.huffingtonpost.ca/2015/04/07/brice-royer-carrot-photos_n_7019740.html
https://shar.es/1cfaUI
https://www.youtube.com/watch?v=PXdB_yDbt2U