‘หนึ่งวันที่ฉันตื่นรู้’ เด็กมรรคง่าย ต้นไม้แห่งปัญญา
โครงการเด็กมรรคง่าย ต้นไม้แห่งปัญญา ดำเนินกิจกรรมมานานกว่า 4 ปีแล้ว…เด็กๆ ที่มาร่วมโครงการมีพัฒนาการด้านสุขภาวะทางจิตใจที่ดีขึ้น จนส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่นำสู่สุขภาวะทางกายและสังคมที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นความมีวินัย การรู้จักรับฟังผู้อื่น มีสมาธิ มีความเอื้ออาทรช่วยเหลืองานของพ่อแม่และผู้อื่นด้วยความเต็มใจ
การจะสร้างใครสักคนให้เติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้นั้น ไม่ใช่เป็นแต่เพียงการดูแลการเจริญเติบโตของร่างกายภายนอก สิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามคือการดูแล ‘จิตวิญญาณภายใน’ ของคนๆ นั้นให้เจริญเติบโตงอกงามควบคู่ไปกับร่างกายด้วยเช่นเดียวกัน
พระอาจารย์ณัฐภพ ขนฺติโก ประธานศูนย์การเรียนรู้พัฒนาจิตและปัญญา วัดไผ่เหลือง ได้จัดตั้งโครงการ ‘เด็กมรรคง่าย ต้นไม้แห่งปัญญา‘ขึ้น ด้วยมีจุดประสงค์ที่จะใช้วัดเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเยาวชน ที่อาศัยอยู่ในชุมชนย่านบางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ให้เติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ โดยเน้นการพัฒนาปัญญาภายในให้เกิดขึ้น ผ่านกิจกรรมบูรณาการร่วมกับการเรียนการสอนด้านวิชาการทุกวันอาทิตย์
“เราจะสังเกตว่าเด็กเดี๋ยวนี้จะไปทางโลกเยอะ เขาจะเจอกับสิ่งที่มายั่วเย้าเขาตลอด วันเสาร์อาทิตย์ถ้าไม่อยู่ตามห้างสรรพสินค้า ก็อยู่บ้านเล่นแต่เกม ก็เลยคิดว่าวันอาทิตย์เราน่าจะเอาเด็กเข้ามาอยู่วัด นำเด็กมาอบรมปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม เน้นเรื่องของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เรื่องจิตวิญญาณ เรื่องของการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไรให้มีความสุข แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เสริมเรื่องปัญญาภายนอกเกี่ยวกับวิชาการ เป็นการบูรณาการเข้ามาร่วมกัน” พระอาจารย์ณัฐภพ ขนฺติโก กล่าวถึงหัวใจสำคัญของกิจกรรมโครงการเด็กมรรคง่าย
นอกจากกลุ่มเด็กและเยาวชนที่จะได้รับการพัฒนาผ่านโครงการเด็กมรรคง่ายแล้ว บุคคลอีกกลุ่มหนึ่งที่จะได้รับการฝึกฝนและพัฒนาตัวตนไปพร้อมกันก็คือ กลุ่มของคุณครูอาสา ซึ่งโครงการได้เปิดรับบุคคลทั่วไปที่มีจิตอาสาเข้ามาร่วมสอนเด็กๆ ในโครงการ
“เราอยากปลูกฝังให้ครูอาสามีความเมตตาต่อกัน ให้เขาได้ซึมซับเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม เรียนรู้เรื่องนี้พร้อมไปกับเด็ก เวลามาทำกิจกรรมครูอาสาจะได้พัฒนาเรื่องของจิตวิญญาณด้านในของเขา ที่เห็นชัดเจนคือเขาจะต้องรู้จักฟังเด็ก” พระอาจารย์ณัฐภพ ขนฺติโก กล่าวเชื่อมโยงให้เห็นถึงการทำงานจิตอาสากับการพัฒนาสุขภาวะด้านใน โดยเฉพาะสุขภาวะทางจิตและสุขภาวะทางปัญญา “บางทีจิตอาสามาทำกิจกรรมด้วยความมุ่งหมาย แต่พอไม่ได้ตามความมุ่งหมายก็จะรู้สึกผิดหวัง ท้อถอย ถึงขนาดเลิกทำเลยก็มี เพราะฉะนั้นทางโครงการจะบอกเสมอว่า ครูอาสาทุกคนจะต้องเป็นผู้คอยฟังเด็ก เรียนรู้นิสัยใจคอของเด็กแต่ละคนผ่านการฟัง ถ้าเขาทำได้เท่ากับเขาจะได้ฝึกตัวเขาเองด้วย”
ในทุกๆ เช้าก่อนเริ่มกิจกรรม พระอาจารย์ณัฐภพ ขนฺติโก จะนำเด็กๆ และครูอาสาทุกคนร่วมกันสวดมนต์ ทำสมาธิ จากนั้นก็จะมีการบรรยายธรรมสั้นๆ ในหัวข้อที่สามารถประยุกต์เข้าได้กับการดำเนินชีวิตประจำวัน เป็นการสอดแทรกให้ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ซึมซับ และมองเห็นความสุขจากธรรมะอันเป็นความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน
“ปัจจุบันคนเรามักจะไปเน้นเรื่องบำรุงความสุขทางกายที่เป็นวัตถุ ทั้งๆ ที่วัตถุมันมีความเสื่อม มีความสลายไปได้ ลองสังเกตดูสิว่า ถ้าเรามีบ้านก็อยากได้ทีวี พอมีทีวีแล้วก็อยากได้ที่จอใหญ่ขึ้น มันจะอยากได้นั่นโน่นนี่ ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ความสุขทางด้านจิตใจ มันจะฝึกให้เราพอ ให้เรามีความสุขกับสิ่งที่เรามี เมื่อเรารู้จักพอแล้ว จะมีมากมีน้อยมันก็เกิดความสุขได้”
วันนี้โครงการเด็กมรรคง่าย ต้นไม้แห่งปัญญา ดำเนินกิจกรรมมานานกว่า 4 ปีแล้ว ได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ปกครองว่า เด็กๆ ที่มาร่วมโครงการทุกคนมีพัฒนาการด้านสุขภาวะทางจิตใจที่ดีขึ้น จนส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่นำสู่สุขภาวะทางกายและสังคมที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นความมีวินัย การรู้จักรับฟังผู้อื่น มีสมาธิ มีความเอื้ออาทรช่วยเหลืองานของพ่อแม่และผู้อื่นด้วยความเต็มใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากการเรียนรู้อย่างค่อยเป็นค่อยไป เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ ซึมซับจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัว ซึ่งจะติดตัวเด็กๆ จนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไปในอนาคต
ในอนาคตโครงการเด็กมรรคง่าย ต้นไม้แห่งปัญญา ตั้งเป้าหมายที่จะขยายงานต่อไปให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนการที่จะพัฒนาพื้นที่ของวัดไผ่เหลืองที่ดำเนินกิจกรรมทุกวันนี้ ให้กลายเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ขณะเดียวกันก็จะมีการสร้างองค์ความรู้ที่เป็นแบบแผน เพื่อที่จะขยายกิจกรรมต่อไปสู่ชุมชนอื่นๆ เพื่อสร้างให้สังคมเกิดสุขภาวะที่ดี นำ ‘หนทางแห่งความดี’ สมดังชื่อของโครงการ ไปสู่เด็กและเยาวชนในทุกพื้นที่อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ขอบคุณภาพและข้อมูล : ธนาคารจิตอาสา