A : หากนำคำถามนี้ไปสุ่มถามความเห็นจากผู้คนบนโลกใบนี้ ผลสำรวจคงออกมาหลากหลายจนเราตาลาย
ทั้งที่ประชากรบนโลกต่างก็เพื่อนมนุษย์เหมือนๆ กับเรา แต่ทำไมนิยามความสุขของผู้คนถึงหลากหลายได้ขนาดนั้น
บางครั้งคนโน้นก็บอกว่าต้องครอบครองสิ่งนั้น ต้องกินนั่น ต้องไปเที่ยวที่นี่
จึงจะมีความสุขแต่บางคนกลับบอกอีกอย่างตามความเชื่อและค่านิยมของเขา
จนหนทางไปสู่ความสุขของคนเราดูจะไม่ไปในทางเดียวกัน ช่างน่าสับสน
ความสุขที่แท้จริงเหมือนจะกระจายอยู่ที่โน่นที่นี่จนคล้ายกับเราต้องเหนื่อยเพื่อวิ่งไล่ไขว่คว้าไปทั้งชีวิต
หากท่านต้องการได้คำตอบจากคำถามนี้จริงๆ มันจะดีมากกว่าหากไปถามเอาจากผู้ที่ศึกษา
เรื่องความสุขความทุกข์ มาเกือบตลอดทั้งชีวิตของท่าน “องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า”
ท่านพบคำตอบนี้นานแล้ว และสอนพวกเรามาตลอด ความสุขที่แท้ที่พระธรรมของพระพุทธเจ้าบันทึกไว้
คือ’ความสงบสุขภายในใจ’ มันจะมีลักษณะโปร่งสบายแช่มชื่นเบิกบาน ไร้ความกังวล อิ่มเอิบในใจ
เห็นสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง ซึ่งภาวะแบบนี้จะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยวัตถุภายนอกมาสนอง
พระพุทธเจ้าท่านทรงพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองแล้วด้วยว่า ‘สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบนั้น ไม่มี’
เราทุกคนก็อาจพบประสบการณ์เช่นนี้ได้ไม่ยาก เช่นลองสังเกตใจตัวเองในวันที่มีเรื่องกลัดกลุ้มร้อนรนกังวลใจ
วันนั้นแม้ว่าจะได้ชิมสิ่งเลิศรส หรือได้ครอบครองของที่เคยอยากได้
แต่เราจะรู้ได้ทันทีเลยว่าสิ่งภายนอกที่เราเสพเหล่านั้นไม่ใช่ความสุขเลย หากในใจยังรุ่มร้อน
และข่าวดีก็คือ ความสุขที่แท้จริงที่ว่านั้น ทุกคนสามารถพบมันได้ หากเราหมั่นฝึกฝนและตระเตรียมปัจจัยเอื้อให้มันเกิดขึ้นตามแนวทางที่องค์ศาสดาสอนไว้
แล้วความสุขนั้นจะเกิดขึ้นในใจเรา โดยไม่ต้องไปไขว่คว้าเอาจากที่ใดเลยใบพัด-ภาณุมาศ ทองธนากุล
Facebook: www.facebook.com/baipadpage