Q: อยากคุยกับพ่อดีๆ แต่เข้าบ้านทีไร ทะเลาะกับพ่อทุกที คุยกันไม่เคยได้นาน ทำอย่างไรดีครับ
Q: อยากคุยกับพ่อดีๆ แต่เข้าบ้านทีไร ทะเลาะกับพ่อทุกที คุยกันไม่เคยได้นาน ทำอย่างไรดีครับ
A: ขอบคุณครับที่ได้กรุณาให้เกียรติถามผมมาเรื่องพ่อกับลูก ความจริงแล้วผมไม่ได้เข้าข้างเด็กนะครับ แต่โดยหลักความจริงแล้วมีอยู่ว่า ถ้าผู้ใหญ่ไม่ให้ความสำคัญแก่เด็กแล้ว สังคมคงจะเจริญไปกว่านี้ได้ยาก
ทั้งนี้เพราะเหตุว่าผู้ใหญ่ควรจะมีสติสัมปชัญญะ ไม่ใช่ตามใจเด็กนะครับ แต่ควรสำรวจตัวเองว่าเราได้ทำหน้าที่สมกับความเป็นผู้ใหญ่แล้วหรือเปล่า
พอดีผมได้อ่านเรื่องที่เขียนไว้เองซึ่งมีชื่อว่า “เด็กเกเร หรือว่าผู้ใหญ่ไม่รู้จักเด็ก”
ครูกับศิษย์ก็ดี พ่อแม่กับลูกก็ดี ไม่เช่นนั้นคนแต่ก่อนคงไม่กล่าวกันว่า “พ่อแม่คือครูคนแรกของลูก”
ครูที่ดีนั้นจะต้องเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์ถาม ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ครูที่ดีหากได้รับการถามจากลูกศิษย์ก็ย่อมมีความสุข
ปรกติคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่นั้นควรเป็นผู้ที่รู้จักการให้ และให้อะไรก็ไม่ดีไปกว่าให้อภัย สังคมเดี๋ยวนี้ผู้ใหญ่ออกไปนอกบ้าน ไปพบกับอะไรก็ตามแล้วทำให้ไม่พอใจ ส่วนใหญ่มักมีแนวโน้มกับมาระบายกับลูก
แม้ครูที่มีอารมณ์ตกค้าง พอมาถึงลูกศิษย์ก็มารระบายออกทิ้ง นี่แหละครับผู้ใหญ่เดี๋ยวนี้หลายคนไม่อาจทำตนให้เด็กเคารพนับถือได้ ทั้งนี้เนื่องจากสังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่ตามใจตนเองมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ผมเป็นบุคลผู้หนึ่งซึ่งเวลาลูกศิษย์มาขอพร ผมมักพูดว่า “ตัวเองไม่บังอาจให้พรใครได้ เพราะทุกคนมีพรสวรรค์อยู่แล้ว ผมให้ได้แต่กำลังใจ”
การที่ผมทำงานหนักมากขึ้นในปัจจุบันก็เพื่อเป็นกำลังใจให้กับชนรุ่นหลัง ถ้าเขาคิดได้ว่าผมมีอายุ 93 แล้ว แต่ก็ทำงานหนักยิ่งขึ้นกว่าเก่า เพื่อเขาจะได้สำรวจตัวเองว่าเรามีอายุไม่เท่าไหร่จะมาท้อได้ยังไง
ทุกคนควรสู้กับสภาพที่มันเป้นอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะภาพจากโลกภายนอกให้ได้ ถ้าเราสู้กับสภาพภายในโลกภายนอกได้ก็ย่อมมีความภูมิใจในตนเอง
ผมขอให้กำลังใจนะครับ
บ้านระพี สาคริก พหลโยธิน 41 จตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ระพี สาคริก
16 กรกฎาคม 2557