“ผมพึ่งเรียนจบ ไม่รู้จะทำงานอะไรดี พี่ว่าผมควรจะทำงานอะไรดีครับ ถึงจะมีความสุข”
Q: “ผมพึ่งเรียนจบไม่รู้จะทำงานอะไรดีพี่ว่าผมควรจะทำงานอะไรดีครับถึงจะมีความสุข“
A: ใครหาคำตอบนี้ให้ตัวเองพบก็ไม่ต่างจากผู้ที่ได้เจอขุมทรัพย์ของการมีชีวิต
ผมเป็นคนหนึ่งที่ทำงานมาตั้งนานกว่าจะพบคำตอบนี้ให้ตัวเอง ทีแรกคิดว่าขุมทรัพย์นี้อยู่ยังดินแดนอันไกลโพ้นซึ่งต้องดั้นด้นไปค้นหา จึงเสียเวลาชีวิตไปกับการพยายามวิ่งวุ่นหาคำตอบนี้ ซึ่งเอาเข้าจริง คำตอบนี้อยู่ใกล้ตัวเหลือเกิน
อยู่ในหัวใจเรานี่เอง
ในวันที่มีโอกาสได้คุยกับหัวใจตัวเองอย่างจริงจัง คือวันที่ผมได้รับลายแทงสู่ขุมทรัพย์
ผมต้องขอโทษด้วยที่จะไม่มีคำตอบสำเร็จรูปสำหรับคำถามของคุณ ว่าขุมทรัพย์แห่งความสุขของคุณอยู่ที่ใด แต่ผมสามารถแบ่งปันลายแทงสมบัติให้คุณได้ ลายแทงนี้เคยช่วยผมมาแล้ว…และหวังว่าจะช่วยคุณได้เช่นกัน
ดีใจนะ ที่ได้รู้ว่ายังมีคนอยากเอาความสุขเป็นตัวตั้งในการทำงานเพราะเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะถ้าไม่เอาความสุขมาตั้งไว้เด่นๆ ทำงานไปเรื่อยๆ เราอาจค่อยๆ ลืมมันไป หันไปเอาเงินเป็นที่ตั้ง เอาชื่อเสียงเป็นที่ตั้ง จนกระทั่งวันนึงเรากลายเป็นคนที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพ ทว่าหาความสุขไม่เจอเพราะไม่รู้เอาไปลืมไว้ไหน
ว่าแต่…ความสุขที่คุณอยากได้เป็นความสุขแบบไหน? สุขแบบประเดี๋ยวประด๋าวหรือความสุขที่ยั่งยืน
หวังว่าจะเป็นอย่างหลังนะ เพราะถ้าหวังแค่ความสุขประเดี๋ยวประด๋าวก็มีโอกาสสูงมากที่ไม่ว่าทำงานอะไรก็จะไม่มีความสุข เพราะงานก็คือการแก้ปัญหาไป ทำงานแต่ละวันก็คือไปเจอปัญหา ฉะนั้นจะมีเรื่องไม่ได้ดั่งใจเกิดขึ้นกับคนทำงานได้เสมอ
หากมองเพียงความสุขตรงหน้า อยากสบายไม่อยากเหนื่อย อยากรีบๆ ทำเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนไปกินไปใช้ให้หายเหนื่อย รับรองว่าคิดแบบนี้มีเรื่องให้บ่นได้ทุกวันแน่ ว่าโอ้ยนี่อะไรกันนักหนา ปัญหาเยอะแยะไปหมด เราจะเป็นคนที่ทำงานแต่ละวันด้วยความรู้สึกโหยหาการเลิกงานเพื่อไปเสพสุข
แต่สำหรับคนทำงานที่อยากทำเพื่อความสุขที่ยั่งยืนแล้ว สิ่งสำคัญจะอยู่ที่สิ่งที่เราคิดต่องาน ถ้าคิดถึงความหมายที่งานมีต่อเราว่า “การทำงานคือการมีส่วนร่วมที่จะทำให้ชีวิตใครซักคนดีขึ้น“ ไม่ว่าเราจะเป็นฟันเฟืองเล็กแค่ไหน ถ้าเราคิดได้แบบนี้เราจะมีความหมาย
ถ้าเรามีความรู้สึกดีกับงาน ถึงทำแล้วจะเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด แต่เราจะไม่ทุกข์
เพราะ ‘เหนื่อย’ กับ ‘ทุกข์’ เราทำให้มันเป็นคนละเรื่องกันได้
แน่นอนความสุขที่ยั่งยืนในการทำงานจะไม่เกิดขึ้นด้วยการที่เราใช้ชีวิตไปวันๆ เราต้องลุกขึ้นมาออกแบบและจัดการสิ่งต่างๆ ที่จะมามีผลกระทบกับความตั้งใจในการทำงานของเราด้วยเช่นถ้า เราไม่ดูแลเรื่องการเงินของตัวเราให้ดีเดี๋ยวก็มีเรื่องกลุ้มใจเรื่องหนี้สิน และถ้าไม่ดูแลสุขภาพหรือความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดี เรื่องเหล่านี้ก็จะมากวนใจให้เราไม่มีความสุขกับการทำงานจนได้
ฉะนั้นแม้จะเลือกงานที่ดูเล็กกระจ้อยในสายตาใครๆ แต่หากเราทำมันด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ เราจะพบความสุขทั้งในชั่วขณะนั้นและตลอดไป
ภาณุมาศ ทองธนากุล