“เจ้านายให้ย้ายหน้าที่ไปช่วยอีกแผนกหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่เราไม่ถนัดเลย และไม่ชอบด้วย จะขอไม่ทำดีไหมครับ หรือทำต่อดี”
คำถาม
“เจ้านายให้ย้ายหน้าที่ไปช่วยอีกแผนกหนึ่ง หวังว่าจะให้เรามาช่วยแต่เป็นสิ่งที่เราไม่ถนัดเลย และไม่ชอบด้วยเป็นงานเกี่ยวกับตัวเลขเต็มไปหมด ไม่มีความเข้าใจเลยซึ่งหน้าที่เดิมเราชอบมากแล้วก็ทำได้ดีและเราก็รู้ตัวดีว่าถนัดอะไรไม่ถนัดอะไร แต่หัวหน้าก็บอกว่าเราทำได้เราก็พยายามแล้ว จะทำให้ดีที่สุด แม้ไม่ชอบแต่รู้ว่าเพื่อบริษัทและส่วนตัวก็ไม่อยากยอมแพ้ไปก่อน ไม่อยากเลือกงานทำแต่ที่ถูกใจแต่ทุกวันนี้ทำงานไม่มีความสุขเลย เครียด จะขอไม่ทำดีไหมครับ หรือทำต่อดี”
คำตอบ
คำตอบของคำถามนี้เป็นไปได้สองทางนะครับ
ทางที่หนึ่งก็คือ ทุกครั้งที่เราได้ลงมือทำสิ่งที่ไม่ถนัด เรากำลังได้เรียนรู้
เป็นไปได้ไหมครับว่า เจ้านายของคุณอาจมองเห็นศักยภาพอีกด้านหนึ่งที่คุณมองไม่เห็นในตัวเอง และพยายามผลักดันให้คุณได้ฝึกฝนความสามารถด้านนั้นให้เก่งขึ้น ในแง่มุมหนึ่งก็คือการเพิ่มความสามารถออกไปทางด้านกว้าง จากที่เคยทำงานด้านหนึ่งได้ดี วันหน้าอาจจะทำงานได้หลากหลายยิ่งขึ้น ทำงานได้กว้างขึ้น
แน่นอนครับว่า การทำในสิ่งที่ไม่ถนัดนั้นย่อมเหนื่อยและน่าเบื่อกว่าการทำในสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่ถนัดอยู่แล้ว แต่เราจะไม่มีวันค้นพบศักยภาพด้านใหม่ๆ ของเราเลย หากไม่ลองลงมือทำในสิ่งที่น่าเบื่อและชวนเหนื่อยดูบ้าง
หากยังทนได้ และมองเห็นอนาคตว่าเราอาจเก่งขึ้นในวันข้างหน้า ผมว่าก็คุ้มที่จะอดทนทำต่อไป มีบ่อยไปไม่ใช่เหรอครับ สิ่งที่เราไม่ชอบในวันนี้ แต่กลับกลายเป็นชอบในวันหน้า และความคุ้นเคย ความเก่ง ความถนัดนี่เองที่จะทำให้เราชอบงานงานนั้น หากยังมีความสนใจที่จะพัฒนาความสามารถของตัวเองในงานใหม่ก็น่ากัดฟันสู้ดูสักเฮือกหนึ่งครับ
ทางที่สองคือ แทนที่จะเสียเวลาทำในสิ่งที่ไม่ถนัด เอาเวลามาพัฒนาสิ่งที่ถนัดจะดีกว่า
หากทำงานใหม่มาได้สักระยะ กระทั่งแน่ใจแล้วว่าคุณไม่ชอบและไม่ถนัดงานนี้แน่ๆ อีกห้าปีก็ไม่มีวันชอบและไม่มีวันทำได้ดี ถ้าเป็นผม ผมจะเดินไปบอกหัวหน้าเลยครับว่า “หัวหน้าครับ ผมรู้ตัวเองดีครับว่าผมไม่มีความสามารถด้านนี้ แต่ช้าก่อน! ผมก็รู้ตัวเองดีเช่นกันว่า ผมทำอีกงานหนึ่งได้ดีมากๆ”
หนังสือ “เจาะจุดแข็ง” ของคุณ Marcus Buckingham และคุณ Donald O. Clifton บอกไว้ว่า คนเรามักจะเสียเวลาไปกับการกำจัดจุดอ่อนมากกว่าจะใช้เวลาไปกับการพัฒนาจุดแข็งของตัวเอง ซึ่งทำให้แทนที่เราจะเป็นคนที่เก่งมากในหนึ่งสิ่ง กลับกลายเป็นคนไม่เก่งอะไรเลยสักสิ่ง
หากรู้แล้วว่าเราถนัดอะไร ทำงานไหนได้ดี และสนใจที่จะทำงานนั้นให้เก่งมากยิ่งขึ้น เราก็ควรเพิ่มความสามารถไปในทางลึก คือเรียนรู้งาน ฝึกฝนงานงานเดียวนั้นให้ลึก ให้รู้จริง ให้ชำนาญมากขึ้นไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าถ้าชัดเจนในตัวเองขนาดนี้ หัวหน้าน่าจะเห็นถึงความตั้งใจอันแรงกล้าและรับฟังเหตุผลนะครับ
หากมั่นใจว่าคุณเป็นแบบหลังก็อย่าได้เสียเวลาทำในสิ่งที่ไม่ถนัดและไม่ชอบอีกต่อไปเลย
เดินไปคุยกับหัวหน้า เดินไปหางานที่ถนัดเถอะครับ