ความสุขจากงานศิลปะ
เมื่อศิลปะทำให้เราเล็กลง เราจะมีความสุข
ณ ชั่วขณะที่เราหยุดอยู่กับการชมศิลปะ หรือโมงยามของการจดจ่ออยู่ที่การสร้างงานศิลป์ คือความรื่นรมย์ที่จรรโลงใจ และมันเป็นเช่นนี้ตลอดมาในทุกห้วงเวลาที่เข้าหาศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นการฟังดนตรี เต้นรำ ดูภาพวาด อ่านวรรณกรรม หรือเป็นผู้ผลิตงานศิลป์ประดิษฐ์หัตถกรรม ศิลปะได้ชื่อว่าเป็นหนทางเข้าหาความสุขที่ง่ายและงดงาม แต่ดูเหมือนเราจะคุ้นเคย และอาจละเลยที่จะระลึกถึงการหาความสุขจริงๆ จากสิ่งนี้ในยามหม่นเศร้า รวมถึงการมีอยู่ของศิลปะอย่างเข้าใจ
ความมหัศจรรย์ของศิลปะเกิดขึ้นได้กับทุกคน เช่นเดียวกับคุณจิตร์ ตัณฑเสถียร ผู้หยิบเอางานศิลปะมาสื่อสารกับคน และพบความสุขที่เกิดขึ้นจากมิติด้านใน รวมทั้งเห็นการเชื่อมโยงกับผู้คนที่ทำให้เกิดความอ่อนโยน และละลายตัวตน
“จุดเริ่มศิลปะของเรามักจะเจอตอนที่อยากจะทำอะไรให้ใครสักคนหนึ่ง อย่างเช่นโครงการ Think ทิ้ง ซึ่งทำตุ๊กตากระต่ายจากผ้าเหลือใช้ เราเอางานศิลป์ไปทำงานกับคนอื่น เป็นกึ่งจิตอาสา เกิดขึ้นหลังจากไปบ้านเด็กโฮมฮัก แล้วพบเด็กที่มีเชื้อเอชไอวี เด็กถูกทิ้ง และมีพัฒนาการไม่ค่อยดี มีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง สังคมทิ้งง่ายเกินไป อันนี้เลยเป็นโครงการที่ทำขึ้นมาเพื่อส่งสารอะไรบางอย่างชื่อ Think ทิ้ง คือคิดก่อนทิ้ง ซึ่งทำมาหลายปีแล้ว เราพบว่ามีเศษผ้าอยู่เยอะ เวลาที่เราตัด บางชิ้นใหญ่ บางชิ้นเล็ก งานศิลปะของเราคือตุ๊กตา ‘กระต่าย’ ที่สื่อว่าตอนมีลูกไม่ค่อยคิด มันมีเพศสัมพันธ์กันง่ายมากและผลิตเต็มไปหมด เป็นตุ๊กตาที่ไม่มีหน้ามีตาในสังคม แต่เขามีอยู่”
จุดเริ่มศิลปะของเรามักจะเจอตอนที่อยากจะทำอะไรให้ใครสักคนหนึ่ง
คุณจิตร์ ผู้ริเริ่มโครงการ Think ทิ้ง เพื่อระดมทุนช่วยเหลือมูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน บ้านโฮมฮัก จังหวัดยโสธร เล่าประสบการณ์การทำงานศิลปะครั้งนั้นว่า “ตกเย็นเลิกงานกลับมาเรานั่งตัดผ้า ใครจะไปคิดว่าเราจะเย็บผ้า แต่มันก็ง่ายๆ เป็นเพลทขึ้นมาแล้วเราก็ทาบ เอากรรไกรตัด เราทำเงียบๆ เราเย็บไม่เก่ง เราควรทำให้มันเย็บง่ายที่สุด คือทำให้ชิ้นมันพอดี เราทำไปเรื่อยๆ อย่างนี้ และงานก็ซ้ำๆ แต่มันไม่ซ้ำมาก เหมือนเดินจงกลมนะ เมื่อเราต้องเริ่มผ้าคู่ใหม่ ก็เหมือนเราต้องกลับตัวตอนเดินจงกลม ทำนานจนสมาธิดี บางวันใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ตัดออกมา 30 ชุด เราทำบ่อยๆ จนพอเราเริ่มหยิบกรรไกรก็เป็นสัญญาใจ เราทำอย่างนี้เหมือนเป็นวัตรเย็น เราทำวัตรเย็นกับซีดี พอขึ้นบทสวด อะระหัง… ก็เป็นเวลาทำวัตรเย็นกับการตัดตุ๊กตา ..เหมือนกิจกรรมเด็กเล็กซึ่งไม่ได้ต้องการทักษะความซับซ้อนอะไรพิเศษ แต่ที่เราต่างจากเด็ก คือเราไม่ได้อยากเล่นตุ๊กตาเลยซักตัวเดียว”
งานศิลปะตื่นรู้และละลายตัวตน
ระหว่างจดจ่อกับการตัดเย็บตุ๊กตากระต่าย ความสุขที่ได้รับนั้น คุณจิตร์บอกว่า “มันชัดเจนมากในระดับตัวเราเอง การทำงานศิลป์แต่ละครั้งถึงแม้ว่าจะไม่ใช่งานศิลปะที่สลับซับซ้อน แต่สร้างสมาธิให้เรา การตัดตุ๊กตาจริงๆ แล้วเรากำลังหยุด มิติทางกายเรากำลังทำ แต่มิติข้างในเรากำลังหยุด หยุดคิด หยุดวุ่นวาย โดยเฉพาะตัวเองเป็นอาชีพนักคิด นักวางแผน หยุดอยู่กับวันพรุ่งนี้ หยุดทบทวนเมื่อวานนี้ อยู่กับกรรไกรที่มันตัดไม่ง่ายเหมือนเส้นตรง มันโค้ง และมันก็ชิ้นเล็กๆ ..ความสุขนี้เราต้องสัมผัสเอง เวลาที่เราได้หยุด เวลาที่เราเป็นอิสระจากอะไรต่อมิอะไร ถ้าพูดถึงพุทธก็คืออิสระจากการปรุงแต่ง จากความคิด จากความง่วงเหงาหาวนอน บางวันเรารู้แล้ว เราเจอความง่วง เราก็ยังทำไปจนถึงตีสาม ได้ 120 ชุด เราทำเพื่อภาวนาด้วย และเรากำลังจะเอาไปขาย อยากให้มันเป็นโปรดัคจากความรัก และความตื่นรู้”
“ขณะเดียวกันเมื่อเป็นงานที่กว้างขวางออกไป ก็เปิดโอกาสให้เราต้องอ่อนโยนขึ้น เพราะเราคนเดียวไม่สามารถทำสำเร็จได้ ต้องมีคุณ ก. คุณ ข. คุณ ค. ที่มีทรัพยากร บางคนมีพื้นที่ บางคนมีเวลา บางคนเย็บเก่งกว่าเรามาก ซึ่งเราเย็บไม่เก่งเลย”
ศิลปะให้อะไรอีกหลายอย่าง คุณจิตร์บอกว่า “เราแอบใช้งานศิลปะในทางตรงกันข้ามเยอะเลย งานศิลปะหลายครั้งที่เอาไว้สร้างตัวตนคนทำงาน แต่เราคิดว่างานศิลปะสามารถละลายตัวตนของคนทำงานได้ เราพบว่าศิลปะทำให้เรารู้สึกเล็กลง เราไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ถ้าเมื่อไหร่ศิลปะทำให้เจ้าของผลงานใหญ่ขึ้น สำคัญขึ้น เชื่อว่าทำเพื่อความเป็นเลิศ ศิลปะจะทำร้ายเจ้าของงาน เราจะทุกข์ถ้ามีบางคนไม่แน่ใจในผลงานของเรา เพราะไม่มีใครคิดเหมือนเราได้หมด มันมีมิติของเวลา สถานที่ ศิลปะจึงควรทำให้เราอ่อนโยนขึ้น เมื่อเรารู้สึกเล็กก็เท่านั้นเอง เราเล็กลง แล้วเราจะสุข”
งานศิลปะหลายครั้งที่เอาไว้สร้างตัวตนคนทำงาน แต่เราคิดว่างานศิลปะสามารถละลายตัวตนของคนทำงานได้ เราพบว่าศิลปะทำให้เรารู้สึกเล็กลง เราไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
“ศิลปะยังสามารถใช้เชื่อมโยงคนด้วยกันได้ เพราะเราคนเดียวมันเล็กมาก ทำอะไรไม่ได้เลย อย่างเรามีไอเดีย Draw Come True (ศิลปะจากภาพวาดสู่ตุ๊กตาตัวน้อย เพื่อเด็กพิเศษ) เราเย็บผ้าไม่เป็น เราก็ไปหาคนเย็บเป็นมาช่วย ไปหาครู เรามีเจตนาที่ดีร่วมกันในการทำงาน เราใช้ศิลปะเพื่อเข้าใจชีวิตด้วย งานประเภทนี้มีอยู่ในสังคมจริงๆ มีเพลงดีที่น่าชื่นชมในสังคมเยอะมาก เพลงทำให้คนรู้สึก แต่เรามักจะฟังเพลงเพื่อทำให้คิด แล้วความคิดบางครั้งควรทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น เข้าใจคนอื่นมากขึ้น เข้าใจความหลากหลายของอารมณ์ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ฟังเพลงรัก โลภ โกรธ หลง แต่ฟังน้อยมาก และฟังเพลงแบบตั้งใจฟังจริงๆ ถ้าไม่ใช่บทสวดมนต์ ถ้าไม่ใช่เพลงบรรเลง เราฟังพอดี เหมือนทานขนมห้าคำแล้วพอ เราคิดว่าเพลงบอกอะไรเรา มีเพลงที่ทำให้ยึด กับเพลงบางเพลงที่ทำให้คลาย”
เราฟังพอดี เหมือนทานขนมห้าคำแล้วพอ เราคิดว่าเพลงบอกอะไรเรา มีเพลงที่ทำให้ยึด กับเพลงบางเพลงที่ทำให้คลาย
ชมศิลปะและฟังเพลงอย่างเข้าใจ
เมื่อการสร้างงานศิลปะไม่ใช่เรื่องของศิลปินผู้ชำนาญ และดนตรีมีให้ฟังตามสื่อต่างๆ มากมาย คุณจิตร์ ในฐานะคนทำงานด้านสื่อสาร จึงมีคำแนะนำสำหรับคนทั่วไปที่ปรารถนาจะสร้างงานศิลปะและเสพงานดนตรีอย่างตื่นรู้ว่า
# การสร้างสรรค์งานศิลปะเริ่มต้นที่ตัวเราเอง โดยเริ่มจากสิ่งที่ทำได้ ไม่ต้องใหญ่มาก แต่รักษาความตื่นรู้ระหว่างการทำงาน ไม่ว่าผลงานจะใหญ่หรือเล็กไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่การสร้างเหตุที่ถูกต้องมากกว่า คือเน้นที่กระบวนการเรียนรู้เป็นเป้าหมาย และผลงานไม่ใช่ผลลัพธ์
# เลือกเสพงาน ถ้าไม่เลือกต้องเสพให้เป็น เช่น เวลาฟังเพลงบางเพลงให้ถามตัวเองว่า อยากเป็นอย่างเขาไหม ถ้าไม่อยากเป็นอย่างเขา อย่าคิดอย่างเขา อย่าทำอย่างเขา และให้เห็นอันตรายของสังคม
# ดูแรงจูงใจของงานเพลงว่า ทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้ อย่าฟังเพลงเพื่อคล้อยตาม แต่ฟังเพื่อตั้งคำถาม ฟังเพื่อทบทวนตัวเอง
# ใช้งานศิลปะเพื่อสร้างความเข้าใจ เช่น ถ้ากำลังเศร้าอยู่แล้วฟังเพลงเพื่อเติมเต็มความเศร้า อันนี้ไม่ใช่ความเข้าใจ แต่ควรฟังให้รู้ว่ามนุษย์ไม่ได้เศร้าคนเดียวในโลก และถ้าทำแบบนี้ก็ต้องเศร้าอย่างนี้ต่อไป
# ตั้งคำถามว่า ศิลปะบอกอะไรเรา เขาคิดอะไรจึงต้องทำสิ่งนี้ เขาทำอะไรจึงเป็นสิ่งนี้ ทำไมเพลงบางเพลงจึงเต็มไปด้วยความสวยงามนั่นเพราะศิลปะที่ถูกต้องคือ ศิลปะที่คลายเรา เป็นศิลปะเพื่อความเข้าใจ ทำให้คนฟังกัน รักกันได้ และมีความสุขที่ได้สื่อสารผ่านงานศิลปะ
คุณจิตร์ ตัณฑเสถียร
เจ้าของบริษัท Hats Consulting
หันมาสนใจมิติด้านในและศึกษาธรรมะ หลังจากตั้งคำถามถึงความสุขในปัจจุบัน และเห็นความทุกข์ของเด็กๆ ที่ขาดโอกาส จนเกิดเป็นโครงการ Think ทิ้ง ตุ๊กตากระต่ายจากผ้าเหลือใช้ และ Draw Come True ศิลปะจากภาพวาดสู่ตุ๊กตาตัวน้อย เพื่อเด็กพิเศษ
เมื่อศิลปะทำให้เราเล็กลง เราจะมีความสุข