ความสามารถในการจดจ่อ การมีสมาธิกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นตัวผลักดันสำคัญสู่ความเป็นเลิศ เทคนิคต่างๆ ที่เราใช้กัน เช่น การทำรายการสิ่งที่ต้องทำ การทำตารางการทำงาน การแจ้งเตือนจากปฏิทิน ล้วนช่วยให้เราทำงานลุล่วง เหล่านี้เป็นสิ่งที่คงไม่มีใครค้านแน่นอน แถมยังมีหลักฐานว่า การทำสมาธิแค่วันละ 10 นาที ช่วยเพิ่มประสิทธิผลของความเป็นผู้นำ โดยช่วยให้คุณสามารถจัดการกับอารมณ์และเข้าใจเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วได้ดีขึ้น เอาล่ะ แม้ความสามารถในการมีสมาธิจดจ่อจะเป็นเรื่องดีแน่นอน แต่ก็มีข้อน่ากังวล เพราะการจดจ่อมากเกินไป
ทุก ๆ ปี นิตยสาร Forbes จะจัดอันดับมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดในโลก และในลิสต์ปี 2014 นั้นก็มีชื่อของ นิโคลัส วูดแมน เจ้าของกล้อง GoPro อยู่ด้วย นิโคลัส หรือ นิค วูดแมน เป็นชายหนุ่มที่หลงใหลการเล่นกีฬาสุดขั้วทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสกี
‘การฟัง‘ เป็น 1 เครื่องมือในการพัฒนาสุขภาวะทางปัญญา ซึ่งนำไปสู่การสร้างความสุขภายในที่ลึกและยั่งยืนที่สุดของคนเรา เมื่อเราเรียนรู้การฟัง เราจะเริ่มฟังอย่างตั้งใจ ฟังแบบไม่ตัดสิน ฟังแบบมีสติรู้เนื้อรู้ตัวว่าเราอยู่ตรงนั้นกับเขา สิ่งที่เราฟังจะไม่ใช่เพียงเนื้อหา แต่เราจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกด้านในของผู้พูดที่อยู่ตรงหน้า ขณะที่เรากำลังฟัง ผู้พูดเองก็สัมผัสได้ถึงสิ่งที่เรามอบให้ มันจะเกิดสายใยบางๆ ที่โอบรัดคนสองคนให้เชื่อมโยง เข้าใจและใกล้กันมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่สำคัญยิ่งก็คือ เมื่อเราเรียนรู้การฟังอย่างเข้าใจ ถึงที่สุดเราจะได้ยินแม้กระทั่งเสียงของเราเอง ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นมันจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านในของเราที่นำพาสิ่งดีๆ
โลกเราก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 มาหลายปีแล้ว (ค.ศ.2001 – 2100) นับๆ ดูแล้วมีเรื่องที่มนุษย์ปัจจุบันเราพัฒนาและก้าวไปไกลกว่าสมัยบรรพบุรุษอยู่มาก โดยเฉพาะบรรดาเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ในทางกลับกัน บางเรื่องมนุษย์ยุคเทคโนโลยีอย่างเรา ก็กลับดูคล้ายจะถอยหลังเข้าคลองไปเสียอย่างนั้น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ สุขภาวะทางปัญญา หรือการดูแลความสัมพันธ์ระหว่างกัน จะโดยรู้ตัวหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่ปัจจุบันพวกเราทำกันแทบไม่เป็นคือ ‘การฟัง‘
เด็กชายวัยรุ่นที่ไม่ได้ไปโรงเรียน เรียนรู้การสร้างกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าจากของเหลือทิ้ง โดยศึกษาเองจากหนังสือ สิ่งที่เขาทำจุดประกายความฝันให้คนทั้งประเทศที่มีไฟฟ้าใช้เพียงแค่ 2% เรื่องของเขาได้รับการกล่าวถึงทั้งใน Wall Street Journal, Time Magazine และภาพยนตร์สารคดีชีวิตของเขาก็ได้รับรางวัล ทุกวันนี้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเพราะการศึกษาเรียนรู้ ไม่เคยหยุดเรียนรู้ เมื่ออายุ 14 ปี เด็กชาย William Kamkwamba
ยังจำความรู้สึกเมื่อคุณหัดผูกเชือกรองเท้าสำเร็จครั้งแรกในชีวิตได้ไหม? ความรู้สึกเมื่อคุณลอยตัวในน้ำได้ครั้งแรก? หรือแม้แต่ความรู้สึกแรกที่เท้าทั้งสองพาคุณล่องละลิ่วไปบนรถจักรยานสองล้อโดยไม่ล้มได้หรือเปล่า? ความรู้สึกในวันนั้น….มันเหมือนเราได้พิชิตยอดเขาสูงที่สุดในโลก คล้ายๆ โลกทั้งใบอยู่ในกำมือของเรา ภาคภูมิใจประหนึ่งนักกีฬาวิ่ง 100 เมตรที่พุ่งตัวเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ได้ยินแต่เสียงคนโห่ร้องปรบมือชื่นชม ความสุข ณ ขณะนั้นมันช่างล้นปรี่จนเราแทบกลั้นไม่อยู่ มันคือความสุขง่ายๆ ในช่วงวัยเด็กที่หลายคนโหยหา และแอบเสียใจลึกๆ ว่าเมื่อชีวิตล่วงเลยมาในวัยผู้ใหญ่ จะไม่มีโอกาสกลับไปมีความสุขแบบนั้นได้อีกแล้ว แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปไป แน่นอนว่าในความเป็นจริงเราไม่อาจย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้